Drone เครื่องบินไร้นักบินเพื่อหาข่าวและล่าสังหารของกองทัพอเมริกัน: ข้อมูลเบื้องต้น %%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%% เดิมที Drone รุ่นแรกที่กองทัพอเมริกันใช้ปฏิบัติการชื่อ Predator มุ่งสำหรับหาข่าวกรอง ภารกิจแรกสุดเริ่มในคาบสมุทรบัลข่านปลายคริสต์ทศวรรษที่ ๑๙๙๐ (ช่วงสงครามโคโซโวซึ่งนาโต้ร่วมรบด้วยโดยสหรัฐฯเป็นแกนนำ) เพื่อป้อนภาพวีดิโอสดให้ทางการสหรัฐฯ ถึงปี ค.ศ. ๒๐๐๑ ก็มีการติดตั้งจรวด Hellfire เข้ากับเครื่อง Predator ยกระดับมันขึ้นเป็นเครื่องบินล่าสังหาร แรกเริ่มทีเดียว ซีไอเอออกจะอึกอักกับการปล่อยเครื่องล่าสังหารที่ไม่มีคนคอยกำกับควบคุมโดยตรงออกปฏิบัติการ แต่แล้วเหตุการณ์ก่อการร้ายและวินาศกรรม ๙-๑๑ ปี ๒๐๐๑ ในอเมริกาก็เปลี่ยนทรรศนะนี้ไป เดือนตุลาคม ค.ศ. ๒๐๐๑ ประธานาธิบดีบุชผู้ลูกได้ลงนามใน “presidential finding” (ผลการสืบค้นของประธานาธิบดี) ฉบับหนึ่งซึ่งส่งผลยกเลิกการห้ามหน่วยงานราชการอเมริกันปฏิบัติการลอบสังหารซึ่งออกมาเมื่อ ๒๕ ปีก่อน อันที่จริงประธานาธิบดีคลินตันก็เริ่มอ้างสิทธิอำนาจที่จะปฏิบัติการโจมตีลับต่ออัลเคด้ามาก่อนหน้านี้แล้ว แต่บุชได้ขยายเป้าการโจมตีที่เป็นไปได้ออกไปอย่างใหญ่หลวง อีกทั้งระบุอนุมัติให้ยกร่างบัญชีเป้าสังหารขึ้นด้วย Predator เริ่มล่าสังหารเป้าหมายเหยื่อรายแรกในเยเมนต้นปี ๒๐๐๒, และซีไอเอเริ่มใช้ Drone ในปากีสถาน ค.ศ. ๒๐๐๔ หลังจากนั้นกองทัพอเมริกันก็ใช้ Drone สนับสนุนกองกำลังภาคพื้นดินในอัฟกานิสถานและอิรัก ยอดจำนวน Drone ของกองทัพอเมริกันเพิ่มขึ้นตามลำดับ จาก ๒๐๐๑ – ๑๖๗ ลำ ๒๐๐๙ – ๕,๕๐๐ ลำ ปัจจุบัน – กว่า ๗ พันลำ ชนิดของ Drone ก็มีการพัฒนาปรับปรุงออกไปจาก Predator (en.wikipedia.org/wiki/Predator_drone ) ไปเป็น -Reaper บินระยะทางไกลกว่าและติดอาวุธโจมตีหนักกว่า Predator (en.wikipedia.org/wiki/Reaper_drone) -Global Hawk บินอัลติจูดสูงและติดเรดาร์ (en.wikipedia.org/wiki/Northrop_Grumman_RQ-4_Global_Hawk) -Raven เป็น Drone ปล่อยขึ้นบินได้ด้วยมือ หน้าตาเหมือนเครื่องบินจำลอง (en.wikipedia.org/wiki/AeroVironment_RQ-11_Raven) คนคุม Drone เหล่านี้จะนั่งเก้าอี้ในห้องแอร์สบายใจเฉิบห่างจากที่เกิดเหตุเป็นพัน ๆ ไมล์ ตัดสินใจกดปุ่มสั่งการให้ Drone ปล่อยอาวุธสังหารโดยดูผ่านจอ ซึ่งจะเห็นเป้าเป็นแค่จุดเล็กกระจิริดที่สลายร่างหายไปกลายเป็นพวยควันเท่านั้นเอง นสพ. Der Speigel ของเยอรมันได้ตีพิมพ์บันทึกประสบการณ์ของอดีตเจ้าหน้าที่คุม Drone อเมริกันรายหนึ่งว่า: “ไบรอันท์เห็นไฟแวบขึ้นบนจอ มันเป็นระเบิด ตึกพังไปบางส่วน เด็กน้อยหายไปแล้ว ไบรอันท์รู้สึกป่วนมวนในท้อง “เราเพิ่งฆ่าเด็กไปหรือเปล่าวะ?” เขาถามเจ้าหน้าที่คุม Drone อีกคนที่นั่งข้างเขา “เออว่ะ ผมเดาว่านั่นมันเด็กนะ” คนคุม Drone ตอบ พวกเขาเขียนข้อความลงในหน้าต่างแชตบนจอว่า “นั่นเด็กหรือเปล่า?” แล้วใครคนหนึ่งที่พวกเขาไม่รู้จักก็ตอบว่า “ไม่ใช่หรอก นั่นหมาน่ะ” เบ็ดเสร็จแล้ว มีเหยื่อที่ถูก drone อเมริกันล่าสังหารไปทั้งสิ้นถึงปัจจุบันราว ๓ – ๕ พันคนในปากีสถาน, เยเมนและโซมาเลีย, อีกหลายร้อยคนถูกล่าสังหารแบบเดียวกันในอัฟกานิสถาน, อิรัก, ลิเบีย ปริมาณการฆ่าด้วย Drone ของอเมริกาเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ จาก ๔๘ ครั้งในปากีสถานสมัยประธานาธิบดีบุชผู้ลูก แล้วเพิ่มขึ้นไปถึงกว่า ๓๐๐ ครั้งสมัยประธานาธิบดีโอบามา การประเมินตัวเลขเหยื่อพลเรือนที่พลอยประสบเคราะห์กรรมตายไปด้วยมีแตกต่างหลากหลายกันไปตั้งแต่: -เลขหลักเดียวในหนึ่งปี (ไดแอน ไฟน์สไตน์ สมาชิกวุฒิสภาสหรัฐฯ ประธานคณะกรรมาธิการข่าวกรองของวุฒิสภา) -ไม่กี่ร้อย (New America Foundation มูลนิธิฝ่ายขวาสายเหยี่ยวของสหรัฐฯ) -เกือบพันคน (Bureau of Investigative Journalism สำนักข่าวไม่แสวงหากำไรในอังกฤษ) -กว่า ๙๐ % ของเหยื่อสังหารโดย Drone ทั้งหมด (ปากคำของอดีตนายทหารอเมริกัน David Kilcullen & Andrew McDonald Exum) (ภาพประกอบตามลำดับซ้ายไปขวา: Predator, Reaper, Global Hawk, Raven, เหยื่อสังหาร ๘๑ คนรวมทั้งเด็กเล็กของ Drone ซีไอเอในปากีสถานปี ค.ศ. ๒๐๐๖ thebureauinvestigates/2013/07/22/exclusive-leaked-pakistani-report-confirms-high-civilian-death-toll-in-cia-drone-strikes/)
Posted on: Sun, 28 Jul 2013 09:39:34 +0000