***IPO CORNER: "ซีออยล์" ขึ้นแท่นไอพีโอป้ายแดงจ่อส่ง 70 ล้านหุ้น ลงเทรดกระดาน mai วันนี้ IPO CORNER จะพานักลงทุนไปรู้จักกับ บริษัท ซีออยล์ จำกัด (มหาชน) หรือ SEAOIL ผู้ประกอบธุรกิจจัดจำหน่ายน้ำมันเชื้อเพลิงให้กับเรือประเภทต่างๆ น้องใหม่ป้ายแดงที่เตรียมส่งหุ้นไอพีโอจำนวน 70 ล้านหุ้น เข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์เอ็มเอไอ (mai) เพื่อนำเงินเป็นทุนหมุนเวียนในการขยายธุรกิจ ส่วนประวัติและความเป็นมา ตลอดจนความพร้อมในการนำหุ้นเข้าตลาด mai ของบริษัทดังกล่าวเป็นอย่างไรนั้นไปติดตามรายละเอียดกันได้เลย ***ประวัติและความเป็นมาของ SEAOIL บริษัท ซีออยล์ จำกัด (มหาชน) หรือ SEAOIL จดทะเบียนจัดตั้งเมื่อวันที่ 26 พฤษภาคม 2540 ด้วยทุนจดทะเบียนแรกเริ่มที่ 1 ล้านบาท ส่วนปัจจุบันบริษัทฯ มีทุนจดทะเบียน จำนวน 180 ล้านบาท และมีทุนที่ออกและชำระแล้ว จำนวน 110 ล้านบาท โดยมีวัตถุประสงค์ในการประกอบธุรกิจจัดจำหน่ายน้ำมันเชื้อเพลิงให้กับเรือประเภทต่างๆ ได้แก่ น้ำมันดีเซลหมุนเร็ว (High Speed Diesel) น้ำมันเตาชนิดต่างๆ (Fuel Oil) และน้ำมันเบนซิน (Premium Gasoline) และน้ำมันหล่อลื่นสำหรับเรือเดินทะเล เรือประมง และเรือประเภทต่างๆ โดยบริษัทฯ จะดำเนินการจัดจำหน่ายทั้งในประเทศและต่างประเทศ เช่น สิงคโปร์ ลาว กัมพูชา พม่า เป็นต้นทั้งนี้เมื่อตุลาคม 2553 บริษัทฯ ได้ทำการขยายธุรกิจออกไปสู่การจัดจำหน่ายน้ำมันเชื้อเพลิงและน้ำมันหล่อลื่นทางบกให้กับโรงงานอุตสาหกรรมและธุรกิจอื่นๆ เช่น ธุรกิจรถขนส่งทางบก ธุรกิจให้บริการรถโดยสาร เป็นต้น ซึ่งทำให้บริษัทฯ สามารถขยายช่องทางการให้บริการแก่ลูกค้าได้หลากหลายขึ้น นอกจากนี้ในเดือนกรกฎาคม 2554 บริษัทฯ ได้เริ่มธุรกิจบริการด้านอาหาร ทำความสะอาดและซักรีด (Catering and Service) ให้แก่เรือพักอาศัย (Accommodation Barge) สำหรับพนักงานประจำแท่นขุดเจาะน้ำมันและก๊าซในอ่าวไทยและเมื่อเดือนกันยายน 2555 บริษัทฯ ได้เริ่มดำเนินธุรกิจให้บริการจัดหาวัตถุดิบ เพื่อใช้ในการเตรียมอาหาร จัดหาเสบียงและบริการอื่นๆ (General Supply) ให้กับเรือเดินทะเล เรือลำเลียงวัสดุอุปกรณ์ เครื่องอุปโภคบริโภค (Supply & Service Boat) และเรือโดยสารพนักงานแท่นขุดเจาะ (Crew Boat) และแท่นขุดเจาะน้ำมันและก๊าซในทะเล เช่น อาหาร น้ำ เครื่องมือต่างๆ เป็นต้น เพื่อเป็นการต่อยอดจากธุรกิจ Catering and Service และยังเป็นการใช้ประโยชน์จากฐานลูกค้าปัจจุบันของบริษัทฯ ที่มีอยู่ในธุรกิจการจัดจำหน่ายน้ำมันเชื้อเพลิงและน้ำมันหล่อลื่นทางทะเลได้ ซึ่งมีความต้องการใช้เสบียงอาหาร และวัสดุสิ้นเปลืองอื่นๆ เพื่อใช้ในการเดินเรืออยู่แล้วเพื่อเพิ่มรายได้ให้กับบริษัทฯ***ลักษณะการประกอบธุรกิจ บริษัทฯ ประกอบธุรกิจหลักอยู่ 2 ประเภท ได้แก่ธุรกิจจัดจำหน่ายน้ำมันเชื้อเพลิงและน้ำมันหล่อลื่น และธุรกิจให้บริการในการจัดหาอาหาร วัตถุดิบ และให้บริการอื่นๆ แก่ที่พักอาศัยในทะเล เรือเดินทะเลและแท่นขุดเจาะน้ำมันและก๊าซในทะเล (Supply Management)***ผลการดำเนินงานที่ผ่านมา บริษัทฯ มีรายได้รวมในปี 2553– ปี 2555และงวด 6 เดือนแรกของปี 2556 เท่ากับ 1,561.94 ล้านบาท 2,535.45 ล้านบาท 2,700.85 ล้านบาท และ 1,322.40 ล้านบาท ตามลำดับ โดยในปี 2554 เพิ่มขึ้น 62.33% จากปี 2553 ในปี 2555 เพิ่มขึ้น 6.52% จากปี 2554 และในงวด 6 เดือนแรกของปี 2556 เพิ่มขึ้น 7.21% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันเมื่อปีก่อน โดยบริษัทฯ มีรายได้หลักมาจากธุรกิจจัดจำหน่ายน้ำมันเชื้อเพลิงและน้ำมันหล่อลื่น ทั้งทางทะเล และทางบก นอกจากนี้บริษัทฯ ยังมีรายได้จากธุรกิจบริการด้านอาหาร วัตถุดิบและให้บริการอื่นๆ แก่ที่พักอาศัยในทะเล เรือเดินทะเลและแท่นขุดเจาะน้ำมันและก๊าซในทะเล (Supply Management ขณะเดียวกันในปี 2553 – ปี 2555 และงวด 6 เดือนแรกของปี 2556 บริษัทมีกำไรสุทธิเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จำนวน 27.85 ล้านบาท, 45.64 ล้านบาท, 63.39 ล้านบาท และ 41.58 ล้านบาท ตามลำดับ โดยในปี 2554 เพิ่มขึ้น 63.83% จากปี 2553 ในปี 2555 เพิ่มขึ้น 38.91% จากปี 2554 และในงวด 6 เดือนแรกของปี 2556 เพิ่มขึ้น 56.15% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันเมื่อปีก่อน ทั้งนี้ บริษัทฯ มีอัตรากำไรสุทธิ ในปี 2553 – ปี 2555 และงวด 6 เดือนแรกของปี 2556 คิดเป็น 1.78%, 1.80%, 2.35% และ3.14% ตามลำดับ ทั้งนี้บริษัทฯ มีอัตราส่วนกำไรสุทธิเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยมีสาเหตุมาจากการเพิ่มขึ้นของยอดขาย ประกอบกับบริษัทฯ สามารถกำหนดราคาขายที่ทำให้บริษัทฯ สามารถทำกำไรได้มากขึ้นและการบริหารจัดการต้นทุนขายและบริการและค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารอย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะเรื่องการบริหารลูกหนี้และการติดตามการชำระเงินของลูกหนี้การค้า***แผนการนำหุ้นเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เอ็มเอไอ (mai) แผนการนำหุ้นของบริษัทฯ เข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ mai นั้น ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2555 บริษัทฯ มีทุนจดทะเบียน จำนวน 180 ล้านบาท แบ่งเป็นหุ้นสามัญ จำนวน 180 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท และมีทุนที่ออกและชำระแล้ว จำนวน 110 ล้านบาท แบ่งเป็นหุ้นสามัญ จำนวน 110 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท โดยที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น ครั้งที่ 1/2556 ซึ่งจัดขึ้นเมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2556 ได้มีมติอนุมัติการจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนเพื่อเสนอขายให้แก่ กรรมการและผู้บริหารของบริษัทฯ และบริษัทในกลุ่มนทลิน จำนวนไม่เกิน 7.70 ล้านหุ้น ซึ่งการจัดสรรหุ้นให้แก่กรรมการและผู้บริหารจะอยู่ภายใต้หลักเกณฑ์และวิธีการเดียวกันกับการจัดสรรหุ้นเพื่อเสนอขายให้แก่ประชาชน โดยเสนอขายให้ในราคาเดียวกับราคาที่บริษัทเสนอขายต่อประชาชนและประชาชน จำนวน 62.30 ล้านหุ้น รวมเป็นหุ้นที่เสนอขายทั้งหมด 70 ล้านหุ้น หรือคิดเป็น 38.89% ของทุนที่ออกและชำระแล้วภายหลังการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนในครั้งนี้ ส่วนที่ปรึกษาทางการเงิน (FA) คือบริษัท เซจแคปปิตอล จำกัด ผู้จัดการการจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายคือบริษัทหลักทรัพย์ เคจีไอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน)***วัตถุประสงค์ในการใช้เงิน บริษัทฯ มีวัตถุประสงค์ในการใช้เงินที่ได้รับจากการเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนให้แก่กรรมการและผู้บริหารของ บริษัทฯ และบริษัทในกลุ่มนทลิน และประชาชนในครั้งนี้ เพื่อใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการขยายธุรกิจของบริษัทฯ***นโยบายการจ่ายเงินปันผล บริษัทฯ มีนโยบายในการจ่ายเงินปันผลในอัตราไม่ต่ำกว่า 30% ของกำไรสุทธิหลังหักภาษีเงินได้นิติบุคคลและหลังหักสำรองต่างๆ ทุกประเภทตามที่กฎหมายกำหนดและตามที่กำหนดไว้ในข้อบังคับของบริษัทฯ ทั้งนี้คณะกรรมการบริษัทเป็นผู้มีอำนาจอนุมัติในการพิจารณาการจ่ายเงินปันผล โดยคำนึงถึงปัจจัยต่างๆ เพื่อก่อให้เกิดประโยชน์แก่ผู้ถือหุ้น เช่น เงินสำรองเพื่อจ่ายชำระหนี้เงินกู้ยืม แผนการลงทุนในการขยายกิจการหรือเพื่อสนับสนุนกระแสเงินสดของบริษัทฯ ในกรณีที่มีผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงของสภาวะตลาด เป็นต้น โดยมติคณะกรรมการบริษัทที่พิจารณาเรื่องดังกล่าวนั้น จะต้องได้รับอนุมัติจากที่ประชุมผู้ถือหุ้น เว้นแต่เป็นการจ่ายเงินปันผลระหว่างกาล ซึ่งคณะกรรมการบริษัทมีอำนาจอนุมัติให้จ่ายเงินปันผลระหว่างกาลได้ แล้วให้รายงานที่ประชุมผู้ถือหุ้นทราบในการประชุมคราวถัดไป By:รวีพรรณ ไพศาลวัฒนการณ์eFinanceThai
Posted on: Thu, 22 Aug 2013 06:12:52 +0000
Trending Topics
Recently Viewed Topics
© 2015