...Windows RT - TopicsExpress



          

...Windows RT นั้นถือเป็นเทคโนโลยีที่ใช่ แต่มันมาช้าไปรึเปล่า... สงครามในโลกไอทีนั้น ยิ่งดูยิ่งสนุกครับ และกำลังมีทีท่าว่า ยักษ์ใหญ่อย่างไมโครซอฟท์กำลังจะสูญเสีย อำนาจการครอบครอง และควบคุมด้านซอฟท์แวร์ของโลก โดยตัวแปรสำคัญก็คือ การเข้ามาถึง Mobile Device เพื่อตอบสนองให้เกิด Mobile Computing นั่นเอง จริงอยู่ว่า Platform x86 ของไมโครซอฟท์นั้นประสบความสำเร็จอย่างมาก ในระยะเวลา 20 ปีที่ผ่านมา และก็น่าจะประสบความสำเร็จต่อไป แต่จะอยู่ในแวดวงที่จำกัดมากขึ้น คือดูเหมือนน่าจะอยู่ในตลาด Server และในลูกค้าองค์กรซะเป็นส่วนใหญ่ ปัจจัยสำคัญที่ทำให้ Platform x86 จะไม่ยิ่งใหญ่เหมือนในอดีต อีกต่อไป ก็เพราะว่า สายการพัฒนาของระบบปฏิบัติการของ Microsoft ที่เน้น Platform x86 นั้น มันได้ต่อยอดพัฒนา แปะโน่น โปะนี่ เพิ่มนั่น จนมาถึงวันนี้ มันอาจไม่เพรียวลม พริ้วไหว พอจะไป run อยู่ได้ในเครื่องที่ทรัพยากรจำกัด เช่นพวก Mobile Device ในปัจจุับัน ที่เน้นความเล็ก คล่องตัว พกพาสะดวก ผมคิดว่า ไมโครซอฟท์เองก็ทราบดีถึงข้อจำกัดของ OS ในตระกูล x86 ซึ่งก็คือ OS สายพันธุ์ Windows x86 ที่วิวัฒนาการมาอย่างยาวนาน ตั้งแต่ Windows 3.1, Windows 95 , 98, ME, XP ,Vista จนมาถึง 7 ,8, และ 8.1 ซึ่ง OS สำหรับเครื่อง x86 พวกนี้ เหมาะมากที่สุดสำหรับพวกเครื่องขนาดใหญ่เช่น Wokstation PC, Desktop PC หรือ Notebook ที่มีทรัพยากรมากๆ แต่ครั้นเมื่อต้องมาเจอ Platform ใหม่ๆ คือพวก Mobile Device ที่ทรัพยากรจำกัด ก็ทำให้ Windows x86 อาจจะทำงานไม่ไหว ซึ่งตรงนี้เอง คือจุดที่ไมโครซอฟท์น่าจะเห็นปัญหา และตัดสินใจพัฒนา OS Platform ใหม่ ก็คือ Windows RT สำหรับ run บน Mobile Device โดยเฉพาะ ด้วยแนวคิด ผมมองว่า ไมโครซอฟท์มาถูกทาง เพราะ ปัจจุบันนี้ไม่มีใครเอา CPU x86 มาทำ Mobile Device เพราะว่า มันเทอะทะเกินไป แต่ปัญหาสำคัญก็คือ นอกจากมันสวาปามทรัพยากรมากแล้ว มันยังไม่มี Backward Compatibility ซึ่งหมายถึงว่า โปรแกรมต่างๆ ที่เคยใช้บน x86 และ Windows เดิมๆ นั้น จะไม่สามารถย้ายมาทำงานบน Windows RT ได้เลย (เหตุผลสำคัญก็คือ มันไม่ได้ทำงานบน CPU Intel x86 นั่นเอง ดังนั้น Windows RT จึงไม่มี binary compatible กันกับ Windows x86) แต่ก็เป็นที่น่าเสียดายว่า Windows RT นั้นออกมาช้าเกินไป เพราะตอนนี้ ตลาดได้ถูก iOS ของ Apple และ Android ของ Google ยึดพื้นที่ ยึดตลาด ไว้ได้แบบค่อนข้างเบ็ดเสร็จเด็ดขาดมาก่อน จึงไม่ง่ายนักที่จะฝ่าด่านทั้งสอง Platform เข้ามายืนแถวหน้าได้ เห็นข่าวเรื่อง Windows RT นี้แล้วคิดไปถึงสารคดีเกี่ยวกับไดโนเสาร์อยู่ตอนหนึ่ง ซึ่งเกี่ยวกับไดโนเสาร์ซอโรพอด (ไดโนเสาร์คอยาว) ชนิดหนึ่ง ซึ่งเดิมเคยอยู่บนแผ่นดินใหญ่ มีทรัพยากรมากมายไม่จำกัด ตัวมันจึงใหญ่โตมโหฬาร เพราะอาหารอุดมสมบูรณ์ แต่ด้วยสภาพแวดล้อมโลกที่เปลี่ยนไป ทำให้ถิ่นอาศัยของมันกลายเป็นเกาะเล็กๆ ที่มีทรัพยากรจำกัด สิ่งที่เกิดขึ้นก็คือ ไดโนเสาร์คอยาวตัวใหญ่นั้น ได้ปรับตัววิวัฒนาการด้วยการ "ลดขนาด" ลง กลายเป็นซอโรพอดพันธุ์จิ๋ว แต่มันก็สามารถอยู่รอดต่อมาได้ ซึ่งนี่ถือเป็นแบบแผนของการวิวัฒนาการของสิ่งมีชีวิตหลายๆ ชนิด ที่อาศัยอยู่บนเกาะ ความอยู่รอดคือ จะต้องลดขนาด ลดการใช้ทรัพยากรลง ทำตัวให้ เพรียวพริ้ว ลื่นไหล ดำรงตนอยู่ได้ในสภาพแวดล้อมที่มีทรัพยากรจำกัด อย่างยิ่ง บทเรียนจากประวัติศาสตร์สอนเราได้ดี ถึงการล้มหายตายจากของ สิ่งมีชีวิตที่แข็งแรง และมีร่างกายใหญ่โตหลายชนิดว่า เช่น ไดโนเสาร์นานาพันธ์ เสือเขี้ยวดาบ หรือช้างแมมมอธ หรือสัตว์ยักษ์นานาพันธุ์ในอดีต ที่ความใหญ่โต แข็งแรง ในบางบริบทบางสภาพแวดล้อมก็เป็นโอกาส แต่ในบางบริบทมันกลับเป็นภัยคุกคาม การต่อสู้ในธุรกิจไอที ก็เหมือนกับการต่อสู้ของสายพันธุ์ต่างๆ ในระบบนิเวศ ผู้ที่ปรับตัวได้ดีกว่า คือผู้อยู่รอด ซึ่งบางครั้ง ผู้ที่แข็งแรง แข็งแกร่ง ร่างกายใหญ่โต ก็ไม่ได้เป็นผู้ชนะเสมอไป ข้อสังเกตสุดท้ายที่ขอทิ้งไว้ก็คือ หาก OS ตระกูล Windows ของ Microsoft และ CPU ตระกูล x86 ของ Intel ไม่สร้างวิวัฒนาการร่วม เพื่อทำการลดขนาด ทำตัวให้ Lean ขึ้น และไม่ลด Footprint ของตัวเองลง ทำตัวให้กินทรัพยากรต่างๆ น้อยลง ก็เห็นทีจะอยู่ยากในระบบนิเวศแบบ Mobile Computing อันเป็น Platform ที่ทุกสิ่งทุกอย่างจะต้อง Lean ไว้ก่อน พ่อไดโนเสาร์สอนไว้ หรือหาก แนวทางการลดขนาด Windows x86 จะไม่มีทางเป็นไปได้ ก็ต้องพยายามทุกวิถีทางที่จะต้องเข็น Windows RT ให้เกิดให้ได้ ซึ่งก็ดูไม่ง่ายนัก ซึ่งหากทำไม่ได้ทั้งสองแนวทาง Microsoft คงลำบากแน่ๆ แต่ก็ต้องติดตามตอนต่อไป สังหรณ์ใจว่า ความยิ่งใหญ่ของ Microsoft และ Intel จะถูกสั่นคลอนอย่างแรงในอนาคตอันใกล้นี้ และบางที Post PC Era อาจหมายถึง Post Intel x86 & Microsoft Era ดูไปดูมา การมาถึงของ Mobile Computing อาจเป็นเหมือน อุกกาบาตลูกใหญ่ ที่ตกลงมาในโลกยุคครีเตเชียส และทำให้ไดโนเสาร์์สูญพันธุ์ไปหมด และเปิดโอกาสให้ สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมครองโลกแทน แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น แม้จะไม่มียักษ์ใหญ่ไดโนเสาร์แล้ว แต่ลูกหลานของมันก็คือ "นก" ก็ยังครอบครองเวหา สืบต่อวงศ์ตระกูลไดโนเสาร์ต่อมา แต่สิ่งที่ยังเดาไม่ออกก็คือ นก ที่ว่าจะเป็นอะไรระหว่าง Windows RT สายพันธุ์ใหม่ที่กำลังร่อแร่เต็มที หรือว่า จะเป็นสายพันธุ์เก่าอย่าง Windows + Intel x86 ที่ต้องยอมกล้ำกลืน ลดขนาด ทำตัวให้เพรียวบาง สวาปามทรัพยากรต่างๆ ให้น้อยลง ลึกๆ ก็แอบเอาใจช่วย บรรดาไดโนเสาร์ยักษ์ใหญ่ ให้สามารถ Transform ตัวเองให้กลายเป็น วิหค ปักษานานาพันธุ์ ครอบครองท้องฟ้า บินถลาแล่นลมไปได้ทุกที่ในโลกหล้าใบนี้ แต่บทสรุปสุดท้ายก็คงหนีไม่พ้นสัจธรรมที่ว่า ความเปลี่ยนแปลงนั้นเป็นนิรันดรจริงๆ หากโลกนี้เปลี่ยน แต่สิ่งมีชีวิตทั้งหลายไม่ปรับเปลี่ยนตาม มันก็คงอยู่ไม่ได้ในโลกใบนี้ และทฤษฎีวิวัฒนาการของ ชาร์ลส์ ดาร์วิน ยังใช้ได้ดีเสมอ ผู้อยู่รอด คือผู้ที่ธรรมชาติได้เลือกสรรแล้วว่า เหมาะสมที่จะได้ดำรงชีวิตต่อไป บนโลกที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลาใบนี้ blognone/node/47350
Posted on: Sun, 11 Aug 2013 16:34:53 +0000

Trending Topics



Recently Viewed Topics




© 2015