กลไกตะแบง หนังสือพิมพ์ - TopicsExpress



          

กลไกตะแบง หนังสือพิมพ์ ไทยโพสต์ - อิสรภาพแห่งความคิด อ่านเอาเรื่อง 18 กันยายน สิงหาคม 2556 การยืนอยู่บนกลไกตลาด คือวิธีการแก้ไขปัญหาด้วยการจัดสรรการผลิตโดยผ่านทางอุปสงค์และอุปทาน ถือเป็นวิธีการแก้ปัญหาที่ถูกต้องสำหรับระบบเศรษฐกิจแบบทุนนิยมที่เราคุ้นเคยครับ แต่ลัทธิอำนาจนิยมจะเป็นอีกแบบ กลไกตลาดจะใช้เฉพาะบางกรณี พูดง่ายๆ คืออำนาจนิยมเน้นทำตามอำเภอใจมาก กว่าบริหารตามกรอบนิติรัฐ นิติธรรม ทำไมรัฐบาลไม่ช่วยเหลือเกษตรกรชาวสวนยางอย่างตรงไปตรงมาเหมือนช่วยเหลือชาวนา รัฐบาลยิ่งลักษณ์เลือกที่จะใช้กลไกตลาดกับยางพารา แต่กลับแทรกแซงกลไกการตลาดเพื่อช่วยเหลือชาวนาให้จำนำข้าวในราคาที่สูงกว่าราคาตลาด สะท้อนให้เห็นชัดเจนว่า รัฐบาลนี้ปกครองประเทศโดยใช้ลัทธิอำนาจนิยม ซึ่งตามทฤษฎี "อำนาจนิยม: authoritarianism" เป็นอำนาจที่กระจุกตัวอยู่กับนักการเมืองกลุ่มเล็ก มีลักษณะรวมศูนย์ รักษาไว้โดยการปราบปรามทางการเมือง และการกีดกันคู่แข่ง เน้นกฎหมายตามอำเภอใจมากกว่านิติธรรม มักมีทั้งการโกงการเลือกตั้ง เป็นกลไกตะแบง ของรัฐบาลฝ่ายประชาธิปไตยเขาหละครับ! ความเหลื่อมล้ำที่เกิดขึ้น เข้าใจได้ครับ เพราะพื้นที่ภาคใต้มิใช่พื้นที่เลือกตั้งของรัฐบาล และรัฐบาลเพื่อไทยรู้ดีว่า ไม่มีทางทำให้คนใต้นอกใจพรรคประชาธิปัตย์ได้ พรรคเพื่อไทยจึงเลือกที่จะสั่งสอนให้คนใต้รู้ว่า ถ้าไม่เลือกพรรคเพื่อไทยผลจะออกมาเช่นไร ปรากฏการณ์นี้ ผมไม่ประหลาดใจอะไร ก็อย่างที่บอกคือ "เข้าใจได้" แต่มีเรื่องที่ยากจะเข้าใจครับ ไม่กี่วันที่ผ่านมามีข่าวม็อบข้าวโพดชุมนุมประท้วง ให้รัฐบาลช่วยแทรกแซงราคา เพราะตกรูดจาก 6.20 บาทต่อกิโลฯ เหลือแค่ 4.80 บาทต่อกิโลฯ ล่าสุดเกษตรกรผู้ปลูกมันสำปะหลังก็ออกมาเรียกร้องเช่นกัน แต่รัฐบาลยังเฉยอยู่ครับ ที่เข้าใจยากคือ รัฐบาลยิ่งลักษณ์เคยมีมติ ครม.เมื่อวันที่ 4 มิถุนายน ที่ผ่านมา เห็นชอบการขยายระยะเวลาการนำเข้าข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ปี 2556 จากเดือนมีนาคม-กรกฎาคม 2556 เป็นเดือนมีนาคม-สิงหาคม 2556 คือขยายเวลาออกไป 1 เดือน อ่านผ่านๆ ก็ถือเป็นเรื่องดีครับ แต่เมื่อมาดูที่มาที่ไป กลับพบว่าไม่ธรรมดาเอาเสียเลย มติ ครม.ในวันนั้น อ้างผลการประชุมคณะกรรมาธิการร่วมทางการค้าไทย-กัมพูชา (Thailand-Cambodia Joint Trade Committee: JTC) ครั้งที่ 4 เมื่อวันที่ 22 เมษายน 2556 ณ ประเทศกัมพูชา โดยมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ และนายจอม ประสิทธิ์ รัฐมนตรีการค้าอาวุโสและรัฐมนตรีการค้ากัมพูชาเป็นประธานร่วม ฝ่ายกัมพูชาได้ยกเรื่องมาตรการจำกัดช่วงเวลานำเข้าข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ของไทยขึ้นหารือว่า เกษตรกรผู้ปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ของกัมพูชาได้รับผลกระทบอย่างหนัก จากการที่ไทยมีมาตรการจำกัดช่วงเวลานำเข้าข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ จึงขอให้ฝ่ายไทยพิจารณาแนวทางแก้ไขปัญหาดังกล่าว โดยขอให้ยกเลิกการจำกัดช่วงเวลาและปริมาณการนำเข้าข้าวโพดเลี้ยงสัตว์โดยเร็ว เนื่องจากผลผลิตข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ของกัมพูชากำลังจะออกสู่ตลาดในช่วงเดือนมิถุนายน ครม.ยิ่งลักษณ์จึงมีมติช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกข้าวโพดกัมพูชาโดยพลัน ไม่ต้องรอให้เกษตรกรกลุ่มนี้ไปปิดถนนที่กรุงพนมเปญเป็นที่ระคายแก่สมเด็จฮุน เซน สำหรับกำหนดมาตรการบริหารการนำเข้าก็น่าสนใจครับ1.ภาษีอัตราร้อยละ 0 2.ให้ อคส.นำเข้าได้ตลอดทั้งปี โดยให้จัดทำแผนการจัดซื้อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ด้านการผลิต การตลาด ภาวะราคาและความต้องการใช้ เพื่อไม่ให้กระทบต่อผลผลิตในประเทศ 3.สำหรับผู้นำเข้าทั่วไปนำเข้าได้ช่วงเดือนมีนาคมสิงหาคม 2556 บางคนอาจแย้งว่า เรื่องพวกนี้ไม่เห็นจะเข้าใจยากตรงไหน เพราะ "ทักษิณ" กับ "ฮุน เซน", "สมชาย-เยาวภา วงศ์สวัสดิ์" กับ "เซียง นัม" ไม่ใช่คนอื่นไกลแต่เป็นคนในครอบครัวเดียวกัน แต่ผมยังยืนครับ เข้าใจยากจริงๆ เมื่อ "ยิ่งลักษณ์" มาสำทับว่าการเมืองอย่ายุ่งกับม็อบยาง ก็ยิ่งเข้าใจยากหนักเข้าไปอีก ไม่เชื่อลองไปถามเกษตรกรปลูกข้าวโพดในบ้านเราดูซิครับ.
Posted on: Wed, 18 Sep 2013 07:52:14 +0000

Trending Topics



Recently Viewed Topics




© 2015