ข่าวเศรษฐกิจ ThaiPR.net -- - TopicsExpress



          

ข่าวเศรษฐกิจ ThaiPR.net -- ศุกร์ที่ 28 มิถุนายน 2556 10:28:36 น. กรุงเทพฯ--28 มิ.ย.--เอ็มทีเอส โกลด์ ราคาทองคำเปิดตลาดที่ระดับ 1,244 เหรียญ/ออนซ์ และกลับมาปิดช่วงกลางคืนที่ระดับ 1,229 (22.30 น.) เหรียญ/ออนซ์ ค่าเงินบาทปิด 31.14 บาท/ดอลลาร์ ราคาสมาคมเปิดที่ 18,300 บาท กับ 18,400 บาท และกลับมาปิดที่ 18,150 บาท กับ 18,250 บาท ปริมาณการซื้อขาย Gold Futures 50 บาทอยู่ที่ 2,904 คู่สัญญา แบบ 10 บาท อยู่ที่ 9,405 คู่สัญญา Open Interest แบบ 50 บาท ลดลง 0.1% แบบ 10 บาทลดลง 44% GFM13 ปิด 18,290 บาท และ GFQ13 ปิด 18,330 บาท GF10M13 ปิด 18,290 บาท GF10Q13 ปิด 18,340 บาท สัญญา Comex ปิดลดลง 18.2 ดอลลาร์ ปิดที่ระดับ 1,211.6 ดอลลาร์/ออนซ์ Silver ปิดลดลง 6 เซนต์ ปิดที่ระดับ 18.553 ดอลลาร์/ออนซ์ SPDR ถือครองทองคำ 969.50 ตัน (ถือครองเท่าเดิม) น้ำมัน NYMEX ปิดเพิ่มขึ้น 1.55 ดอลลาร์/บาร์เรล ปิดที่ระดับ 97.05 ดอลลาร์/บาร์เรล ดาวโจนส์ปิดเพิ่มขึ้น 114.35 จุด ปิดที่ 15,024.49 จุด ข่าวที่สำคัญ ราคาทองคำปรับตัวลดลงหลุดระดับ 1,200 เหรียญเมื่อคืนนี้เป็นครั้งแรกในรอบเกือบสามปี (34 เดือน) หลังปิดตลาด COMEX ทำจุดต่ำสุดใหม่ที่ระดับ 1,197.26 เหรียญ จากความกังวลที่เฟดอาจชะลอการเข้าซื้อพันธบัตรในช่วงปลายปีนี้ ประกอบกับการปิดสถานะในช่วงสิ้นไตรมาส เช้านี้ตลาดเอเชียราคาทองคำปรับตัวลดลงอย่างหนักทำจุดต่ำสุดที่ระดับ 1,180.5 เหรียญ ในช่วง 10 วันที่ผ่านมาราคาทองคำปรับตัวลดลงไปเกือบ 200 เหรียญ และลดลงมากกว่า 28% ในปีนี้ และกำลังเคลื่อนเข้าสู่ไตรมาสที่แย่ที่สุดนับตั้งแต่ปี 1968 ที่ราคาทองคำปรับตัวลดลงในช่วงระยะ 1 ไตรมาสถึง 25% นักวิเคราะห์กล่าวว่ามีภาวะ bottom fishing เกิดขึ้น ซึ่งเปรียบกับการตกปลาที่ยังคงหาจุดความลึกของน้ำไม่ได้ เช่นเดียวกับราคาทองคำที่ไม่แนะนำให้ซื้อในราคาที่ต่ำ เพราะย่อมมีราคาที่ต่ำกว่า และนั่นทำให้เกิดสาเหตุของการปรับตัวลดลงที่มาจากคำสั่ง Pre-placed sell stop orders ถูกกระตุ้นให้เกิดการใช้งานจากราคาที่ปรับตัวลดลงหลุดระดับ 1,221 เหรียญ ตัวเลขเศรษฐกิจทางฝั่งสหรัฐออกมาดีขึ้น ไม่ว่าจะเป็น Jobless Claims ที่มีคนว่างงานลดลง 9,000 ตำแหน่ง, Personal Spending ดีขึ้นที่ระดับ 0.3% จากติดลบ 0.3% นับว่าสูงสุดตั้งแต่ปี 2006 และ Pending Home Sales ที่ดีขึ้นอย่างมาก ออกมาที่ระดับ 6.7% จากติดลบ 0.5% แต่ในช่วงที่ประกาศตัวเลขก็ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อตลาดเท่าไรนัก นายล็อคฮาร์ท ประธานเฟดสาขาแอตแลนตาระบุว่า ในท้ายที่สุดเฟดจะลดยอดงบดุลบัญชี ซึ่งนั่นหมายถึงการลดขนาด QE ลง และเขายังกล่าวว่า จะไม่มีปัญหาเงินเฟ้อในระยะยาว อย่างไรก็ตาม โดยภาพรวมยังไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงในนโยบายการเงินของเฟด และดูเหมือนเฟดจะเริ่มมองหาโอกาสในการเพิ่มอัตราดอกเบี้ยในปี 2015 สำนักข่าว Kitco รายงานว่า คำกล่าวของนายล็อคฮาร์ทไม่ได้สร้างความประหลาดใจมากนักต่อตลาดทองคำ แต่ราคาทองคำปรับตัวลดลงแค่ปรับตัวลดลงไปพร้อมกับตอนที่ข่าวออกเท่านั้น เทรดเดอร์และนักลงทุนทองคำได้รับแรงกระตุ้นให้ขายทองคำออกมาอีก จากการเทขายของ SPDR เมื่อวันอังคาร 16.23 ตัน ภายหลังจากนั้น 3 วัน SPDR ก็ไม่ได้ทำอะไร คงทองเท่าเดิมที่ระดับ 969.5 ตัน ปีนี้ SPDR ขายออกไป 28% HSBC กล่าวว่า การลดขนาดของ QE อาจเป็นผลดีต่อราคาทองคำอย่างเห็นได้ชัด แต่ที่ราคาทองคำปรับตัวลดลงในระยะสั้นนี้เนื่องมาจากมีการปิดสถานะก่อนสิ้นสุดไตรมาส นักวิเคราะห์บางรายกล่าวว่า ระดับ 1,200 เหรียญเป็นจุดที่สำคัญ ซึ่งเป็นครั้งแรกในรอบสิบปีที่เรากำลังพูดถึงราคาทองคำเข้ามาใกล้กับระดับต้นทุนการผลิตทองคำ โดยตลาดจะจับตาอย่างใกล้ชิด นายฮาร์เวย์ ศาสตราจารย์มหาวิทยาลัยดุ๊ค ผู้ทำวิทยานิพนธ์เกี่ยวกับมูลค่าทองคำ กล่าวว่า แนวโน้มขาลงของทองคำจะเกิดขึ้นต่อไปในระยะยาว และราคาทองคำจะกลับสู่ระดับ Fair Value หรือราคาเฉลี่ยบริเวณ 800 เหรียญ ซึ่งนั่นหมายถึงว่าราคาจะลงไปอีก 400 เหรียญจากราคาปัจจุบัน นายเซลกิ้น หัวหน้ากลยุทธ์จาก National Securities Corp. กล่าวว่า เมื่อตลาดเข้าสู่แนวโน้มใดนักลงทุนเพียงแค่ต้องการที่จะทำตามแนวโน้ม และตอนนี้เราอยู่ในแนวโน้มขาลงอย่างรุนแรง โดยเขามองว่า ราคาทองคำอาจปรับตัวลดลงไปทำจุดต่ำสุดถึงระดับ 800 เหรียญจาก panic selling ซึ่งเป็นราคาที่ถูกที่สุดนับตั้งแต่เดือนธันวาคมปี 2008 ตัวเลขเศรษฐกิจเมื่อคืน - Unemployment Claims ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 355K ตัวเลขคาดการณ์อยู่ที่ระดับ 345K ตัวเลขจริงออกมาอยู่ที่ระดับ 346K - Personal Spending m/m ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ -0.3% ตัวเลขคาดการณ์อยู่ที่ระดับ 0.3% ตัวเลขจริงออกมาอยู่ที่ระดับ 0.3% - Pending Home Sales m/m ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 0.3%ตัวเลขคาดการณ์อยู่ที่ระดับ 1.1% ตัวเลขจริงออกมาอยู่ที่ระดับ 6.7% ตัวเลขเศรษฐกิจที่ต้องติดตาม - Chicago PMI ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 58.7 ตัวเลขคาดการณ์อยู่ที่ระดับ 55.2 - Revised UoM Consumer Sentiment ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 82.7 ตัวเลขคาดการณ์อยู่ที่ระดับ 83.1 ทิศทางราคาทองคำ ราคาทองคำปรับตัวลดลงต่อเนื่องในช่วงปลายตลาด COMEX เมื่อคืนนี้ หลังจากตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐอเมริกาโดยทั่วไปดีขึ้นเกี่ยวกับยอดขายบ้าน และ Personal Spending ในปลายตลาดช่วงประมาณตีสองบ้านเราราคาร่วงหลุดระดับ 1,230 เหรียญลงมา และเริ่มมาทดสอบบริเวณ 1,200 เหรียญ และหลุดระดับ 1,200 เหรียญในช่วงเปิดตลาดที่ Sydney เช้านี้ โดยภาพรวมวิเคราะห์ได้ว่าราคาทองคำยังคงเป็นแนวโน้มขาลง และยังปรับตัวลดลงต่อเนื่องจากแรงเทขาย วิเคราะห์ราคาทองคำทางเทคนิค ถ้าเรานับจาก Fibonacci Retracement จะพบว่าระดับที่จะเป็นระดับถัดไปที่ 61.8% อยู่ที่ระดับ 1,175 เหรียญต่อออนซ์ และบริเวณ 1,150 เหรียญจะเป็นแนวรับสำคัญสำหรับนักลงทุนระยะยาวรายเดือน สรุปว่าแนวรับถัดไปจะอยู่ที่ระดับ 1,175 เหรียญและ 1,150 เหรียญตามลำดับ บริเวณ 1,200 เหรียญเป็นเพียงแนวรับทางจิตวิทยาเท่านั้น ไม่ได้มีจุดสำคัญทางสถิติใดๆ คาดว่าราคาทองคำมีโอกาสที่จะปรับตัวลดลงต่อเนื่องไปหาบริเวณแนวรับสำคัญของ Fibonacci Retracement 61.8% ที่ระดับ 1,175 เหรียญมากกว่า โดยแนวต้านจะอยู่ที่ระดับ 1,230 เหรียญด้านบน กลยุทธ์การลงทุนในวันนี้ ยังคงเป็นการเก็งกำไรในทิศทางขาลง แนะนำให้ขายก่อนแล้วซื้อทีหลังเมื่อมีจังหวะและโอกาส - นักลงทุนถือ Long Position แนะนำให้ทำ Stop Loss ออกไป และหาจังหวะในการเปิด Short Position เมื่อราคาดีดตัวสูงขึ้นมา - นักลงทุนที่ถือ Short Position แนะนำให้ปิดสถานะ Short เพื่อทำกำไรออกไปเป็นช่วงๆ Gold Futures Q13 จะมีแนวรับที่ระดับ 17,800 บาท และแนวต้านที่ระดับ 18,050 บาท Gold Futures V13 จะมีแนวรับที่ระดับ 17,880 บาท และแนวต้านที่ระดับ 18,120 บาท บทวิเคราะห์ข้างต้น ยึดหลักตาม Technical Analysis บริษัทไม่ได้มีส่วนรับผิดชอบใดๆ ต่อการวิเคราะห์ข้างต้นและโปรดระลึกเสมอว่าการลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณในการลงทุนด้วยตัวของท่านเอง
Posted on: Fri, 28 Jun 2013 06:26:05 +0000

Trending Topics




© 2015