จัดเต็ม 24 จุดเด่นใน iOS 7 - TopicsExpress



          

จัดเต็ม 24 จุดเด่นใน iOS 7 1.All-New User Interface Animation ส่วนสำคัญที่โดดเด่นมากที่สุดของการปรับเปลี่ยนครั้งนี้ คือการสอดแทรกแอนิเมชันเข้าไปในแทบทุกฟีเจอร์ส่วนของอินเตอร์เฟสอย่างแนบเนียน นับตั้งแต่ Dynamic Wallpaper ภาพพื้นหลังที่เคลื่อนไหวได้ ซึ่งเมื่อผู้ใช้เอียงตัวเครื่องภาพพื้นหลังจะเคลื่อนไหวตาม ไอคอนนาฬิกาที่เคลื่อนไหวได้จริง หรือแม้แต่หน้าโฮมสกรีนที่เปลี่ยนไป นอกจากนั้นยังสามารถใช้ภาพพาโนรามามาตั้งเป็นภาพพื้นหลัง และสามารถหมุน เอียงเครื่องเพื่อให้ภาพไหลจากซ้ายมาขวา หรือขวามาซ้ายสำหรับรับชมภาพให้ครบทั้งภาพ 2.ฟอนต์ไทยใหม่ ไร้หัวใน iOS 7 นับเป็นการปรับโฉมครั้งสำคัญภายใต้แนวความคิดที่เรียบง่ายของ Jonathan Ive ซึ่งสะท้อนไปถึงตัวหนังสือที่มีการปรับเปลี่ยนไปใช้แบบไร้หัว และบางครั้งอาจจะสร้างความรู้สึกผิดแปลกให้ผู้ใช้ในบางประเทศที่ชื่นชอบตัวหนังสือที่เป็นแบบตั้งเดิมอยู่บ้าง แน่นั่นก็อาจจะเป็นเพียงแค่ความเคยชินดั้งเดิมที่ติดอยู่ และเวลาอาจจะทำให้ความเคยชินใหม่เกิดขึ้น 3.ปรับโฉมแสดงสถานะการชาร์จไฟใหม่ สถานะแบตเตอรี่แบบใหม่ที่แสดงอยู่บนหน้า Lock screen ที่ดูสวยงามขึ้นจากเดิมที่เป็นเพียงพื้นดำและสถานะแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ โดยรูปแบตเตอรี่ที่เห็นมีขนาดเล็กถูกลงวางซ้อนอยู่บนพื้น Lock screen ที่ผู้ใช้สามารถเลือกปรับแต่งได้ตามชอบใจ 4.slide to unlock ที่เปลี่ยนไป จากเดิมที่เคยมีปุ่มให้เลื่อน ถูกตัดเหลือเพียงตัวอักษรให้มองเห็น และสามารถปลดล็อกหน้าจอได้ด้วยการนำนิ้วปาดจากซ้ายไปขวาที่บริเวณใดก็ได้ของหน้าจอ Lock Screen แปลงระดับความแรงสัญญาณเป็นไข่ปลา แอปเปิลเชื่อว่าการปรับเปลี่ยนรูปแบบจากเดิมที่เป็นแบบขีดสี่เหรี่ยมมาเป็นไข่ปลาแบบวงกลม ช่วยให้สังเกตได้ง่ายกว่าเดิม โดยไข่ปลาทั้งหมดมีด้วยกัน 5 ระดับ 5.สถานะแบตเตอรี่ที่ใหญ่ขึ้น เพื่อความชัดเจนของการมองเห็นระดับพลังงานแบตเตอรี่ แอปเปิลจึงได้ขยายขนาดของสถานะแบตเตอรี่เพิ่มขึ้น พร้อมทั้งมีสัญลักษณ์สายฟ้าสีขาวกระพริบเตือนอยู่ด้านข้างเมื่อทำการเสียบสายชาร์จเข้ากับตัวเครื่อง 6.ปาดนิ้วที่จอเพื่อเรียกฟีเจอร์เซ็นเตอร์ การปาดนิ้วจากด้านบนขอบจอลงมาด้านด้านล่างจะหมายถึงการเรียก Notification Center ขึ้นมา ขณะที่การปาดนิ้วจากขอบจอด้านล่างขึ้นไปจะเป็นการเรียก Control Center 7.Notification Center แบบละเอียดมากขึ้น ใน iOS 7 นี้ ระบบการแจ้งเตือน Notification Center ถูกเพิ่มรายละเอียดให้มากขึ้น โดยแบ่งเป็น 3 รูปแบบ เริ่มจาก today คือการแจ้งเตือนที่ถูกแบ่งเป็นแบบรายวัน ซึ่งจะมีทั้งในส่วนของการนัดหมาย สภาพอากาศ เป็นต้น ส่วน all จะเป็นการแจ้งเตือนจากแอปฯ ทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็น Line, Facebook, Instragram และสุดท้าย missed คือส่วนเก็บการแจ้งเตือนที่ผู้ใช้ไม่ได้อ่าน เช่น มีการแจ้งเตือนมาในหน้า Lock Screen แต่ผู้ใช้ไม่ได้กดดู การแจ้งเตือนนั้นจะถูกเก็บไว้ในส่วนของ missed 8.ฟีเจอร์ใหม่ล่าสุด Control Center คือเมนูลัดสำหรับเปิด-ปิด Airplane Mode, WiFi, Bluetooth, do not disturb (ห้ามรบกวน) และล็อกการหมุนของหน้าจอ รวมทั้งสามารถปรับแสงสว่างหน้าจอ มัลติมีเดียและสามารถกดเข้าแอปด่วน 4 แอป ที่แอปเปิลเลือกไว้ให้ ได้แก่ ไฟฉาย นาฬิกาปลุก เครื่องคิดเลข และกล้องถ่ายภาพได้อย่างง่ายดาย 9.ไอคอนนาฬิกาแบบเคลื่อนไหวได้ ใน iOS 7 ปุ่มไอคอนนาฬิกาสามารถเคลื่อนไหวแบบเรียลไทม์เพื่อบอกเวลาเช่นเดียวกับที่นาฬิกา Analog หรือนาฬิกาแบบเข็มทำได้ และเชื่อว่าสิ่งนี้จะกลายเป็นเทรนด์ใหม่ของการออกแบบไอคอนต่อไปในอนาคตของแอปเปิล 10.ไอคอนใหม่เน้นสีสันมากกว่าสมจริง หากสังเกตที่หน้า Home Screen จะเห็นการเปลี่ยนแปลงไอคอนของแอปฯ ใหม่โดยตัดเรื่องแสงเงาและความสมจริงออก กลายเป็นไอคอนแบบแบนเรียบ แต่เน้นสีสันมากขึ้น โดยไอคอนของแต่ละแอปฯส่วนใหญ่ถูกดีไซน์ขึ้นมาใหม่สำหรับ IOS 7 โดยเฉพาะ 11.ความสามารถ Search iPhone ที่มากขึ้น ความสามารถดังกล่าวคือการผูกระบบ Instant การค้นหาของกูเกิลมาตอบสนอง โดยเมื่อพิมพ์คำเข้าไปที่ช่องค้นหาเพียงตัวอักษรแรก ระบบจะเดาคำศัพท์ที่ตั้งใจจะพิมพ์พร้อมแสดงผลลัพธ์สำหรับการค้นหาขึ้นมาแสดงทันที ขณะที่การเปิดใช้งานฟีเจอร์ดังกล่าวจากเดิมใช้วิธีปาดนิ้วจากซ้ายไปขวาเมื่ออยู่ในหน้า Home Screen แต่สำหรับ iOS 7 จะต้องปาดนิ้วลงด้านล่างเพื่อเปิดฟีเจอร์ดังกล่าว เมื่ออยู่ในหน้า Home Screen เช่นกัน 12.คีย์บอร์ดแบบใหม่โปร่งใสสบายตา คีย์บอร์ดในเวอร์ชัน iOS 7 ถูกปรับเปลี่ยนรูปแบบให้มีความโปร่งใส่มากขึ้น จากเดิมที่เป็นเพียงพื้นสีเทาแบบทึบถูกปรับให้มีความโปร่งแสงแบบเลเยอร์ ขณะที่รูปแบบสระสำหรับภาษาไทย จะมีวงไข่ปลาช่วยให้ดูสระได้ง่ายขึ้น 13.Apps Group แบบไม่จำกัด การจัดกลุ่มไอคอนแอปฯ ใน iOS 7 จะเปิดให้สามารถใส่แอปฯในหนึ่งกลุ่มได้มากขึ้น จากเดิมกลุ่มเดียวสามารถใส่ได้เพียงเต็มหนึ่งหน้า Home screen เท่านั้น ลดข้อจำกัดหากมีแอปฯบางกลุ่มที่มีปริมาณมากกว่าที่เวอร์ชัน iOS เดิมรับได้อย่างสะดวก 14.Multitasking ใหม่สะดวกขึ้น โดยวิธีเรียกใช้ยังคงเดิมคือกดปุ่มโฮม 2 ครั้งติดกัน แต่แสดงรายละเอียดที่มากขึ้นจากเดิมที่แสดงเฉพาะไอคอนแอปฯอย่างเดียว สำหรับ iOS 7 ระบบ Multitasking จะแสดงภาพหน้าต่างแอปฯคู่กับไอคอนที่เปิดใช้งาน และวิธีการปิดแอปฯ ที่ทำงานอยู่ก็ทำได้ง่ายกว่าเก่าเพียงลากแอปฯ ขึ้นด้านบนแอปฯ ที่เลือกก็จะปิดตัวลงทันที โดย Multitasking แบบใหม่นี้ยังสามารถใช้ในแนวนอนได้อีกด้วย 15.Weather App ใหม่ไฉไลกว่าเดิม แอปเปิลยังคงเรียกใช้บริการตรวจสอบสภาพอากาศจาก Yahoo เหมือนเดิม แต่จะมีการปรับเปลี่ยนหน้าตาของแอปฯ ให้สามารถแสดงสภาพอากาศแบบภาพเคลื่อนไหวที่สวยงามขึ้น (ดูตัวอย่างได้จากคลิปวิดีโอด้านล่าง) 16.Camera and Photo Filter โฉมใหม่ใช้ง่ายขึ้น วิธีการถ่ายภาพจากแอปฯใน IOS 7 ง่ายขึ้นกว่าเดิม ทั้งในส่วนของการเปลี่ยนโหมดถ่ายภาพที่เพียงแค่ปาดหน้าจอจากขวาไปซ้าย นับตั้งแต่ Video, Photo, Square (ถ่ายภาพแบบ 1:1 แบบ Instagram) และ Pano (พาโนรามา) ขณะที่ปุ่ม HDR ถูกวางอยู่เหนือปุ่มชัตเตอร์เพื่อให้เรียกใช้งานได้ง่ายขึ้น จากเดิมต้องกดเข้าไปใน Options ก่อนถึงจะเปิดใช้งานได้ ทั้งนี้ฟีเจอร์ Real-Time Effect Filter สำหรับใช้ตกแต่งภาพถ่าย เช่น เอฟเฟ็กต์ Noir, Process, Fade เป็นต้น สามารถใช้งานได้สำหรับ ไอโฟน 5 และไอพอด ทัช รุ่นใหม่เป็นต้นไปเท่านั้น 17.ฟีเจอร์ใหม่ AirDrop on iOS AirDrop คือเทคโนโลยีรับ-ส่งไฟล์ผ่านระบบไร้สาย (WiFi, Bluetooth) ระหว่าง iOS Device กับ iOS Device ด้วยกัน โดยไม่ต้องพึ่งพาสัญญาณอินเตอร์เน็ตและ Cloud Storage ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้อุปกรณ์ไอโอเอสสามารถส่งไฟล์ภาพหาเพื่อนได้ง่ายขึ้น หากแต่ยังจำกัดอยู่เพียงแค่อุปกรณ์ที่จะส่งไฟล์หากันต้องเป็นอุปกรณ์ประเภทเดียวกันเท่านั้น 18.Gallery แบบใหม่ตามหมวดหมู่ อัลบั้มภาพแบบใหม่จะมีการเพิ่มส่วนรับชมภาพที่ชื่อ Moments ซึ่งมีหลักการทำงานคือ ระบบจะจัดหมวดหมู่ภาพให้อัตโนมัติ โดยอ้างอิงจากวัน เวลา และสถานที่ถ่าย โดยรูปที่ถ่ายจากสถานที่เดียวกันจะรวมอยู่ด้วยกันพร้อมไล่วันที่ เวลาถ่ายให้สะดวกต่อการเรียกชมภาพ ทั้งนี้ในส่วนของ Photo Streams มีการปรับรูปแบบการแสดงผลใหม่คล้าย Flickr 19.ฟีเจอร์ใหม่ Block Contact เป็นออปชันพิเศษในสมุดรายชื่อสำหรับผู้ใช้ iOS 7 โดยเฉพาะ โดยสามารถบล็อกเลขหมายโทรศัพท์ไปถึง FaceTime และข้อความ ที่เราไม่ต้องการสนทนาได้ทันที 20.Music ในส่วนแอปฯ ฟังเพลงจะมีการทำงานคล้ายกับรูปแบบเดิม แต่ในแนวนอนรูปแบบการใช้งานจะเปลี่ยนไป กล่าวคือ จะเปลี่ยนรูปแบบแสดงผลจากปกอัลบั้มขนาดใหญ่ให้เหลือเป็นขนาดเล็กและจัดรูปแบบหน้าเป็นตารางหมากรุกแทน และถ้าผู้ใช้อยากฟังเพลงจากอัลบั้มไหน ก็สามารถกดที่ปกอัลบั้มนั้นได้เลย ทั้งนี้ผู้ใช้สามารถฟังเพลงที่ซื้อมาอย่างถูกลิขสิทธิ์จากไอจูนแบบสตรีมมิ่งออนไลน์ผ่านระบบ iCloud โดยไม่ต้องกดดาวน์โหลดออกมาให้เปลืองพื้นที่โทรศัพท์ 21.เพิ่มฟีเจอร์ให้ AppStore นอกจากหน้าตาไอคอนที่เปลี่ยนไปแล้ว ยังมีออปชัน Near Me ที่รวบรวมแอปฯ ยอดนิยมตามพิกัดพื้นที่ที่เดินทางไป ช่วยให้ง่ายสำหรับผู้ที่เดินทางไปต่างประเทศบ่อยและต้องการค้นหาแอปฯท้องถิ่นที่ช่วยในการเดินทาง โดย Near Me จะเลือกเฉพาะแอปฯ ที่มี Rating โหวตสูงๆ มานำเสนอผู้ใช้เท่านั้น นอกจากนั้น AppStore ตัวใหม่ยังสามารถอัปเดตแอปฯ แบบอัตโนมัติได้ด้วย 22.อัปเดต New Compass ใน iOS 7 เข็มทิศดิจิตอลได้รับการเพิ่มเติมออปชันใหม่ให้สามารถตรวจวัดความลาดเอียงของ โดยรูปแบบการใช้งานจะเป็นวงกลมสีขาว 2 วงพร้อมองศาความลาดเอียงอยู่ตรงกลาง โดยวิธีใช้ก็เพียงนำไอโฟนไปวางที่วัตถุที่ต้องการวัดความลาดเอียง ถ้าวัตถุอยู่ในแนวระนาบตรงไม่ลาดเอียง วงกลมทั้ง 2 จะซ้อนกันและสีพื้นหลังจะเปลี่ยนเป็นสีเขียว แต่หากมีความลาดเอียงวงกลมสีขาวทั้งสองจะแสดงระนาบพร้อมตัวเลของศาให้เห็น 23.เต็มจอกับ Safari ใหม่ ซาฟารีใน iOS 7 ถูกปรับปรุงด้านหน้าตาโดยเน้นการแสดงผลแบบเต็มจอทั้งแนวตั้งและแนวนอน ทั้งในส่วนของ Address Bar และเมนูด้านล่าง จะถูกซ่อนเมื่อผู้ใช้ทำการเลื่อนหน้าเพจขึ้นไป และจะปรากฏอีกครั้งเมื่อผู้ใช้เลื่อนหน้าเพจลงมา และในส่วนของแท็บก็ถูกปรับให้แสดงผลในรูปแบบ 3 มิติแบบไม่จำกัดจำนวนเหมือนเดิม รวมถึงช่อง Search จะถูกรวมไว้กับ Address Bar เหมือน Google Chrome และ Firefox เช่นกัน 24.Siri ใหม่มีชีวิตมากขึ้น ในส่วนของสิริทางแอปเปิลได้มีการปรับเสียงพูดให้เหมือนมนุษย์มากยิ่งขึ้น พร้อมหน้ากราฟิกใหม่กับเส้นเสียงที่ขยับตามเสียงพูดที่สั่งออกไป รวมไปถึงความสามารถในการแก้ไขคำสั่ง (Tap to edit) ได้เองด้วยการพิมพ์ กรณีที่สิริฟังคำสั่งเสียงของเราผิดจากความตั้งใจ IOS 7 ถือเป็นความเปลี่ยนแปลงก้าวแรกที่สำคัญของแอปเปิลที่ชี้ทิศทางไปสู่การออกแบบอินเตอร์เฟสให้ดูมีชีวิตมากขึ้น สังเกตได้จากการสอดแทรกอนิเมชันเข้าไปในทุกสิ่งที่เป็นไปได้ และที่สำคัญที่แอปเปิลโดดเด่นไม่เคยเปลี่ยนแปลงคือ การตอบสนองความรู้สึกของผู้ใช้ได้อย่างสมูทมากกว่าสมาร์ทโฟนเครื่องใดจะสามารถทำได้ และครั้งนี้ก็เช่นเดียวกันการตอบสนองด้วยการใช้งานเพียงมือข้างเดียวที่ทั้งจับและกดโทรศัพท์ในตัว สามารถทำได้อย่างไม่ติดขัด ซึ่งโดยรวมการใช้งานอาจจะเรียกได้ว่าดีกว่า iOS เวอร์ชันก่อนๆ โดยเฉพาะ Multitasking แบบใหม่ที่ยอมรับว่าใช้มือเดียวสามารถเปิด ปิด สลับแอปฯ ได้สะดวกกว่าเดิมมาก
Posted on: Wed, 23 Oct 2013 03:09:01 +0000

Trending Topics



Recently Viewed Topics




© 2015