󾁀บล.ดีบีเอสวิคเคอร์ส : - TopicsExpress



          

󾁀บล.ดีบีเอสวิคเคอร์ส : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน 03/12/56 “สั้นๆยังผันผวน…กลาง-ยาวให้ทยอยซื้อหุ้นดีเพื่อลงทุน” กลยุทธ์การลงทุน SET Index เมื่อวานนี้แกว่งตัว โดยลงไปต่ำสุด 1351.67 (-19.46 จุด) แล้วดีดกลับในช่วงบ่ายหลังจากนายกรัฐมนตรีแถลงว่ารัฐบาลยินดีเจรจาและเปลี่ยนแปลงในทางที่มีกฎหมายรองรับ เช่น ยุบสภา, ลาออก แต่ในส่วนการตั้งสภาประชาชนนั้นทำไม่ได้เพราะไม่เล็งเห็นว่ามีกฎหมายข้อใดที่รัฐบาลจะดำเนินการในแนวทางนี้ได้ ปิดตลาดดัชนี +3.13 จุด มายัง 1374.26 จุด มูลค่าซื้อขายปานกลาง 3 หมื่นกว่าล้านบาท นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 6.4 พันล้านบาท ส่วนอีก 3 กลุ่มที่เหลือเป็นซื้อสุทธิ • สำหรับวันนี้ : สถานการณ์ชุมนุมรุนแรงขึ้นในช่วง 1-2 วันที่ผ่านมา ซึ่งกดดันให้ฝ่ายต่อต้านรัฐบาลและรัฐบาลเข้ามาเจรจากัน โดยวานนี้ทางกองทัพได้ประสานให้เริ่มต้นเจรจากันแล้ว ซึ่งคาดหวังว่าจะได้ข้อสรุปในไม่ช้านี้ และประเทศกลับสู่ความสงบ อย่างไรก็ตาม สิ่งที่อาจจะเกิดขึ้น คือ ภาวะสูญญากาศทางการเมืองในช่วงที่มีการปรับเปลี่ยน ซึ่งทำให้โครงการลงทุนขนาดใหญ่และการใช้จ่ายภาครัฐล่าช้าออกไป แต่ส่วนหนึ่งจะถูกชดเชยด้วยการลงทุนภาคเอกชนที่เดินหน้าต่อภายหลังเห็นทิศทางการเมืองชัดเจน สำหรับเศรษฐกิจไทย คาดว่าจะเริ่มฟื้นตัวในปลาย 1Q57 หรือต้น 2Q57 และยังมีโอกาสที่เศรษฐกิจไทยในปี 57 จะเติบโตมากกว่า 4% ถ้าปัญหาการเมืองไม่ยืดเยื้อ ส่วนปัจจัยภายนอก ระยะสั้นเป็นบวก โดยตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐ ยูโรโซน บ่งชี้ว่าเศรษฐกิจเติบโตดีขึ้นและยังมีโมเมนตัมบวก ส่วนเศรษฐกิจจีนขยายตัวอย่างมีเสถียรภาพมากขึ้น ด้านรัฐบาลญี่ปุ่นยังเดินหน้ากระตุ้นเศรษฐกิจเพื่อให้บรรลุเป้าหมายเงินเฟ้อ 2% ส่วนปัจจัยที่ต้องติดตามระยะต่อไปใน 1Q57 คือ การชะลอ QE3 และการแก้ปัญหาการคลังสหรัฐ • กลยุทธ์การลงทุน : เน้นเลือกซื้อลงทุนระยะกลาง-ยาวในหุ้นพื้นฐานดีจังหวะราคาอ่อนตัว สำหรับการเก็งกำไรรอบสั้น ให้ซื้อตามด้วยค่าบวกและไม่ควรหวัง Gap กำไรมาก การวิเคราะห์ทางเทคนิค ให้แนวต้านระยะสั้นไว้ที่ 1380,1390 จุด แนวตัดขาดทุนคือ ต่ำกว่า 1355 จุด หุ้นพื้นฐานที่แนะนำซื้อ วันนี้เป็น INTUCH Fundamental Pick INTUCH แนะนำซื้อ ราคาปิด 78 บาท ราคาตามพื้นฐาน 119 บาท • แม้ว่ากำไรสุทธิ 3Q56 อาจจะไม่โดดเด่นมากนัก แต่เชื่อว่าจะเติบโตสูงขึ้นในปี 57 หลังจากที่ ADVANC เข้าสู่ระบบ 3G ใหม่และได้รับประโยชน์เต็มที่ โดยคาดว่า ADVANC จะสามารถโอนย้ายลูกค้าจากระบบ 2G เป็น 3G ใหม่ได้ตามเป้าหมายที่ 12 ล้านรายภายในสิ้นปี 56 นี้ นอกจากนั้นคาดว่าผลประกอบการของ THCOM จะเติบโตแข็งแกร่งราว 40% ในปี 57 หลังจาก Turnaround ในปีนี้ • แนะนำซื้อ ฝ่ายวิจัยฯ DBSV ให้ราคาพื้นฐานไว้ที่ 119 บาท คาดการณ์ Dividend ปี 56-57 ไว้ที่ 4.25 บาท และ 5.50 บาท คิดเป็น Yield ไว้ที่ 5.4% และ 7.0% ตามลำดับ นับว่าสูงมากในกลุ่มที่เป็นหุ้น Market Cap ใหญ่ และดีกว่า Dividend Yield ของตลาดรวมที่ 3.8% อย่างมีนัยสำคัญ (สำหรับราคาพื้นฐานของ S&P CIQ Consensus จากนักวิเคราะห์ 19 รายอยู่ที่ 105 บาท – Median) ปัจจัยต่างประเทศและโภคภัณฑ์ + สหรัฐ : ดัชนีภาคการผลิตเดือนพ.ย. เพิ่มขึ้นต่อ + สถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) เปิดเผยว่าดัชนีภาคการผลิตเดือนพ.ย.เพิ่มขึ้นสู่ระดับ 57.3 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับแต่เดือนเม.ย.54 จากระดับ 56.4 ในเดือนต.ค.56 ซึ่งแสดงให้เห็นว่าแนวโน้มการขยายตัวที่สดใสในภาคการผลิตยังคงมีความต่อเนื่องในช่วงครึ่งหลังของปี 56 + สหรัฐ : ดัชนี PMI ภาคการผลิตพ.ย. ปรับขึ้นสู่ระดับสูงสุดในรอบ 10 เดือน + มาร์กิตเปิดเผยผลสำรวจระบุว่าดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตของสหรัฐในเดือนพ.ย.พุ่งขึ้นแตะ 54.7 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 10 เดือน จากระดับ 51.8 ในเดือนต.ค. และสูงกว่าการประเมินเบื้องต้นที่ 54.3 + สหรัฐ : การใช้จ่ายด้านก่อสร้างเดือนต.ค.เพิ่มขึ้นสูงสุดในรอบ 4 ปีครึ่ง + กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า การใช้จ่ายด้านการก่อสร้างในเดือนต.ค.เพิ่มขึ้น 0.8% แตะ 9.08 แสนล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบเกือบ 4 ปีครึ่ง เพราะได้รับแรงหนุนจากการใช้จ่ายในโครงการก่อสร้างสาธารณะที่พุ่งขึ้น 3.9% - สหรัฐ : การใช้จ่ายในเทศกาลขอบคุณพระเจ้าลดลง YoY - สหพันธ์ค้าปลีกแห่งชาติของสหรัฐ (NRF) เปิดเผยผลสำรวจที่ระบุว่าการใช้จ่ายของผู้บริโภคได้ลดลงในช่วงสุดสัปดาห์ของเทศกาลขอบคุณพระเจ้า โดยการใช้จ่ายเฉลี่ยต่อคนอยู่ที่ 407.02 ดอลลาร์ ลดลง 3.9%YoY จาก 423.55 ดอลลาร์ ขณะที่การใช้จ่ายทั้งหมดในช่วงวัดหยุดดังกล่าวอยู่ที่ระดับ 5.74 หมื่นล้านดอลลาร์ - ตลาดหุ้นสหรัฐอ่อนลงจากแรงขายทำกำไร - ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 16,008.77 จุด ลดลง 77.64 จุด หรือ -0.48% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 1,800.90 จุด ลดลง 4.91 จุด หรือ -0.27% ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 4,045.26 จุด ลดลง 14.63 จุด หรือ -0.36% โดยเป็นผลจากแรงขายทำกำไร หลังจากดัชนีปรับขึ้นต่อเนื่องมาหลายวัน + สัญญาน้ำมันดิบปรับขึ้น หนุนโดยภาคการผลิตที่แข็งแกร่งขึ้นของสหรัฐ + สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนม.ค.พุ่งขึ้น 1.1 ดอลลาร์ปิดที่ 93.82 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนม.ค.ที่ตลาดลอนดอนเพิ่มขึ้น 1.76 ดอลลาร์ปิดที่ 111.45 ดอลลาร์/บาร์เรล ปัจจัยหนุน คือ ตัวเลขภาคการผลิตที่แข็งแกร่งของสหรัฐ ประเด็นที่จับตา คือ ผลประชุมโอเปคในวันพุธนี้ที่กรุงเวียนนา ซึ่งนักวิเคราะห์คาดว่ากลุ่มโอเปคจะมีมติคงเพดานการผลิตน้ำมันดิบไว้เท่าเดิมที่ 30 ล้านบาร์เรลต่อวัน - สัญญาทองคำ COMEX ดิ่งแรง - สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนก.พ.ร่วงลง 28.5 ดอลลาร์ หรือ -2.28% ปิดที่ 1,221.9 ดอลลาร์/ออนซ์ โดยนักลงทุนลดการถือครองทองคำหลังตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐออกมาแข็งแกร่ง ปัจจัยในประเทศและหลักทรัพย์ • Wealth Perspective : ธันวา...ทยอยซื้อหุ้นพื้นฐานดีเพื่อลงทุน หุ้น Top Picks ของเดือนนี้เป็น AP, AOT, BTS,KBANK, THCOM ส่วน Dark Horse คือ CPN, LPN, MINT • Stock Picks เดือนพย.56 (BECL, BTS, INTUCH, PTTGC, THCOM) ให้อัตราผลตอบแทนลดลง 1.8% ขณะที่ตลาดติดลบ 5% โดยหุ้นที่ให้ Return โดดเด่น คือ BTS สำหรับอัตราผลตอบแทนสะสม 11M56 ของหุ้น Stock Picks เท่ากับ 22.4% ขณะที่ตลาดรวมอยู่ที่ 1.2% • ปัจจัยหนุนตลาด ประกอบด้วย 1) เศรษฐกิจโลกฟื้นตัวดีขึ้น โดยเศรษฐกิจสหรัฐ, อังกฤษ เติบโตดีกว่าคาดใน 3Q56 เศรษฐกิจยูโรโซนฟื้นตัวต่อ เศรษฐกิจจีนและญี่ปุ่นขยายตัวเพิ่มขึ้น, 2) เศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มขยายตัวดีขึ้นในปี 57 โดยคาดว่าจะเริ่มเห็นตั้งแต่ปลาย 1Q57 หรือต้น 2Q57 โดยเป็นผลจากการบริโภคที่เริ่มพลิกฟื้นหลังผ่านพ้นปัญหาน้ำท่วมและการเมืองในปลายปี 56 การลงทุนภาครัฐและเอกชนขยายตัวรองรับ AEC และการเติบโตในระยะยาว ภาคท่องเที่ยวดีต่อเนื่อง และการส่งออกฟื้นตัวตามเศรษฐกิจโลก, 3) แรงซื้อ LTF ในเดือนธ.ค.56 ซึ่งคาดว่าจะมีกว่า 1 หมื่นล้านบาท, 4) Valuation กลับมาจูงใจ โดย P/E ปี 56 ของตลาดที่ขึ้นไปสูงสุดราว 16 เท่าในช่วงเดือนเม.ย.-พ.ค. ได้ลดลงเป็น 14 เท่าในปัจจุบัน ซึ่งคิดเป็น P/E ปี 57 ที่ 12 เท่า ซึ่งเป็นระดับที่น่าสนใจเริ่มทยอยซื้อลงทุน • ปัจจัยเสี่ยง/ไม่แน่นอน คือ ปัญหาการคลังสหรัฐที่ยังไม่จบ, การชะลอ QE3 กระทบ Fund Flow และอัตราแลกเปลี่ยน, ความขัดแย้งทางการเมืองในประเทศ • กลยุทธ์ : ลงทุนอย่างระมัดระวัง (Cautious Buy) ) โดยเน้นไปยังหลักทรัพย์ที่มีแนวโน้มกำไรเติบโตแกร่งในปี 57 งบดุลมั่นคง และ PEG ต่ำกว่า 1 เท่า กลุ่มเด่น คือ อาหาร, สื่อสาร, ท่องเที่ยว และขนส่งหลักทรัพย์ Top Picks ของเดือนธ.ค.56 ได้แก่ AP, AOT, BTS, KBANK, THCOM ส่วน หลักทรัพย์ที่เป็น Dark Horse คือ CPN, LPN, MINT • เงินเฟ้อเดือนพ.ย.56 อยู่ในเกณฑ์ต่ำทางการไทยยังคงนโยบายการเงินผ่อนคลายเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจได้ต่อ แต่ความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่ต่ำอาจทำให้ผลดีจากการลดดอกเบี้ยเห็นไม่ชัดในช่วงสั้น • ดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไปเดือนพ.ย.56 เพิ่มขึ้น 0.09%MoM และ 1.92%YoY ส่วน Core CPI (ไม่รวมอาหารและพลังงาน) เพิ่มขึ้น 0.18%MoM สำหรับ 11M56 ดัชนีเพิ่มขึ้น 2.24%YoY และ Core CPI เพิ่มขึ้น 1.02%YoY นับว่าอัตราเงินเฟ้ออยู่ในเกณฑ์ที่กระทรวงพาณิชย์ตั้งเป้าหมายไว้ (ปี 56 ตั้งเป้าหมายไว้ที่ 2.1-2.6%) ความเห็นเชิงกลยุทธ์ทีม Trader Spectrum : นับว่าอัตราเงินเฟ้อยังไม่ได้มีแรงกดดัน ทำให้ทางการไทยยังสามารถใช้นโยบายการเงินผ่อนคลายเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจได้ต่อ โดยล่าสุดกนง.เพิ่งปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง 0.25% เป็น 2.25% อย่างไรก็ตาม อัตราดอกเบี้ยที่ต่ำลงอาจช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจได้ไม่มากในช่วงที่ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคต่ำ ซึ่งขณะนี้มีแนวโน้มว่าความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนพ.ย.จะลดลงต่อหลังมีปัญหาการเมืองรุนแรง ดังนั้นเรายังคงให้น้ำหนักการลงทุนในกลุ่มที่อ่อนไหวต่ออัตราดอกเบี้ย เช่น ธนาคารพาณิชย์, ค้าปลีก และที่พักอาศัย เป็นแค่ปานกลาง (Neutral) กลยุทธ์ คือ ทยอยซื้อเมื่อราคาหุ้นอ่อนตัว หุ้นที่คาดว่ากำไรปี 57 จะเติบโตแกร่ง คือ KBANK, KTB, CPALL, BIGC,SPALI, SC, AP, LPN เป็นต้น • CPN : CPNRF เลื่อนขายหุ้นเพิ่มทุน เนื่องจากการเมืองรุนแรง (เดิมจะขายในเดือนธ.ค.นี้) แต่คาดว่าเลื่อนไม่นาน ยังคงคำแนะนำซื้อ CPN ราคาพื้นฐาน 60 บาท • มีรายงานข่าวจากตลาดหลักทรัพย์ฯ ระบุว่า กองทุนรวมสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ CPN รีเทล โกรท (CPNRF) เลื่อนการเปิดขายหน่วยลงทุนเพิ่มทุนช่วง 3-12 ธ.ค.56 สำหรับผู้ถือหน่วยเดิมและผู้ลงทุนทั่วไป และในช่วง 3-18 ธ.ค.สำหรับผู้จองซื้อพิเศษเจ้าของอสังหาริมทรัพย์ และ PP เนื่องจากมีสถานการณ์ความขัดแย้งทางการเมือง ทั้งนี้ก่อนหน้า CPNRF ประกาศเพิ่มทุนในสัดส่วน 1 ต่อ 0.3385 ราคาจองซื้อ 16 บาท/หน่วย • การเลื่อนเพิ่มทุนของ CPNRF ทำให้การขายสินทรัพย์เข้ากองทุนของ CPN ต้องเลื่อนตามไปด้วย ทำให้ในไตรมาส 4/56 จะยังไม่บันทึกกำไรก้อนใหญ่จากการขายสินทรัพย์เข้ากองทุน ต้องเลื่อนตามไปด้วยทำให้ในไตรมาส 4/56 จะยังไม่บันทึกกำไรก้อนใหญ่จากการขายสินทรัพย์ คือ โครงการเซ็นทรัล พลาซ่าเชียงใหม่ เข้ากองทุนฯ โดยการประเมินมูลค่าของสินทรัพย์ดังกล่าวอยู่ที่ราว 1.03 หมื่นล้านบาท เทียบกับมูลค่าทางบัญชีที่ต่ำกว่า 2 พันล้านบาท • ยังคงแนะนำซื้อ CPN เนื่องจากเชื่อว่าการขายสินทรัพย์เข้ากองทุน CPNRF และการเพิ่มทุนของกองทุนฯ จะเลื่อนไปไม่มาก โดยคาดว่าจะดำเนินการได้ในช่วง 1H57 ซึ่งกำไรจากการขายสิทธิการเช่าจะช่วยหนุนให้กำไรปี 57 ของ CPN เติบโตได้อย่างแข็งแกร่ง ฝ่ายวิจัยฯ DBSV ให้ราคาพื้นฐานไว้ที่ 60 บาท (สำหรับราคาพื้นฐานของ S&P CIQ Consensus จากนักวิเคราะห์ 12 รายอยู่ที่ 59 บาท – Median) • การเมือง : ฝ่ายต่อต้านและรัฐบาลเริ่มมีการเจรจากัน โดยมีกองทัพเป็นตัวกลางประสาน แต่ยังไม่ได้ข้อสรุปคาดว่าจะมีความชัดเจนในไม่ช้านี้ • น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหมระบุว่า ขณะนี้มีข้อเสนอทางออกทั้งยุบสภาลาออก และคืนอำนาจให้กับประชาชน ซึ่งนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ถ้าการยุบสภาหรือลาออกสามารถทำให้ผู้ชุมนุมคืนพื้นที่ส่วนราชการทั้งหมดและยุติการชุมนุมก็ยินดีจะดำเนินการ แต่ทางออกของการแก้ปัญหาต้องเป็นที่ยอมรับของประชาชนส่วนใหญ่ ซึ่งต้องมีกระบวนการในการสอบถามความคิดเห็นส่วนการตั้งสภาประชาชนนั้นทางรัฐบาลมองว่าไม่อยู่ในกรอบรัฐธรรมนูญ • “กองทัพ” เป็นคนกลางประสานให้ฝ่ายต่อต้านและรัฐบาลเข้ามาเจรจาไกล่เกลี่ยกัน โดยเมื่อวานนี้ได้มีการนัดพบปะพูดคุยกันในกรมทหารราบที่ 1 รักษาพระองค์ (ร.1 รอ.) โดยมีบุคคลที่พูดคุยกันในห้องเพียง 5 คน คือ นายกรัฐมนตรียิ่งลักษณ์, นายสุเทพ เทือกสุบรรณ, พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก, พล.ร.อ. ณรงค์ พิพัฒนาศัย ผู้บัญชาการทหารเรือ และ พล.อ.อ. ประจิน จั่นตอง ผู้บัญชาการทหารอากาศ โดยนายสุเทพได้เสนอแนวทางเหมือนกับที่ปราศัยบนเวทีศูนย์ราชการ ส่วนนายกรัฐมนตรีรับข้อเสนอแต่ไม่มีความเห็น โดยขอไปปรึกษาทีมงานก่อน • คณะยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทยถกเครียด โดยสิ่งที่กังวลคือ การสร้างสถานการณ์จากมือที่สามเพื่อให้เกิดการบาดเจ็บล้มตาย และทำให้สถานการณ์รุนแรงขึ้น เพื่อทำให้เห็นว่ารัฐบาลไม่สามารถควบคุมสถานการณ์ได้ ซึ่งหากถึงคราวจำเป็นจริงๆ ทางรัฐบาลอาจเลือกใช้วิธียุบสภา โดยมีเงื่อนไขว่าต้องทำสัญญาประชาคมยุติการชุมนุม และยอมรับผลการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้น อย่างไรก็ตาม ทางกลุ่มต่อต้านรัฐบาลไม่ยอมรับการยุบสภาและเงื่อนไขดังกล่าว นักกลยุทธ์ & นักวิเคราะห์ : อาภาภรณ์ แสวงพรรค :
Posted on: Tue, 03 Dec 2013 03:00:37 +0000

Trending Topics



Recently Viewed Topics




© 2015