เอทีวี-ATV ย่อมาจากคำเต็มว่า All Terrain Vehicle หมายถึงพาหนะที่สามารถขับขี่ไปได้ทุกสภาพถนน รถเอทีวี มีกำเนิดจากสหรัฐอเมริกา เป็นรถที่อาจจะมี 3 หรือ 4 ล้อ หรืออาจมากถึง 6 ล้อในกรณีที่มีความต้องการเป็นพิเศษ อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันส่วนใหญ่พบ เอทีวีในรูปแบบ 4 ล้อยกสูงไว้ใช้งานสมบุกสมบัน ขึ้นเขา ลงห้วย ตะลุยป่า ขับผ่านแม่น้ำตื้นๆ และอื่นๆ ทั้งนี้ เอทีวีมีขนาดตั้งแต่ 50 ซีซี ไปจนถึง 500 ซีซี โดยปกติออกแบบมาให้ขับขี่คนเดียวและใช้ความเร็วไม่สูงมากนัก แต่ต้องการแรงฉุดกระชากเพื่อฝ่าอุปสรรคต่างๆ รถเอทีวีคันแรกประมาณว่าสร้างขึ้นในปี ค.ศ.1950 ซึ่งตอนนั้นมี 6 ล้อ ก่อนที่ฮอนด้าจะผลิตรถเอทีวีชนิด 3 ล้อขึ้นในปี 1970 และในปี 1982 ฮอนด้ารุ่น ATC200E Big Red ก็ถูกผลิตขึ้น ด้วยความสามารถไปได้ทุกที่ ทำให้เป็นที่นิยมอย่างมากในกลุ่มนักล่าสัตว์ในอเมริกาและแคนาดา นับแต่นั้นมาค่ายต่างๆ ก็ได้สร้างรถสมรรถภาพเยี่ยมออกมาแข่งขันกันอย่างต่อเนื่อง รถเอทีวีจำเเนกตามประเภทการใช้งาน ดังนี้ ประเภทที่ 1 เครื่องยนต์ 80-125 ซีซี เทคโนโลยีของเครื่องยนต์พอเหมาะกับผู้เพิ่งเริ่มต้น บางรุ่นเป็นเครื่อง 2 จังหวะ และ 4 จังหวะ ระบายความร้อนด้วยอากาศ ระบบกันสะเทือนด้านหน้าอาจเป็นแบบคานแข็ง คอยล์สปริงธรรมดา บางรุ่นเป็นแบบอิสระ A-ARM (ดีกว่าแบบคานเเข็ง) แต่มีเพียงแขนยึดด้านล่างเพียงแขนเดียว ซึ่งต่างกับระบบกันสะเทือนแบบอิสระปีกนกสองชั้นทั่วไป ด้านหลังเป็นแบบมาตรฐาน คือแบบสะวิงอาร์ม คานแข็ง ระบบขับเคลื่อนส่วนใหญ่มักเป็นโซ่ (ระบบเพลาก็มี) ยึดด้วยโช้กอัพ 1 ตัว รถเอทีวีประเภทนี้เน้นความสะดวกสบายในการขับขี่ ไม่ต้องวุ่นวายเปลี่ยนเกียร์ให้ยุ่งยาก ประเภทที่ 2 ส่วนใหญ่เป็นแบบ 4 จัง หวะ สูบเดี่ยว ความจุ กระบอกสูบ 250 ซีซี ขึ้นไป เน้นแรงบิดสูงในรอบต่ำๆ ไม่เน้นความ เร็วรอบเครื่องยนต์ เน้นการใช้งานแบบสมบุกสมบัน นำไปบรรทุกของหนักๆ ได้ รวมทั้งลุยป่าฝ่าโคลน ระบบเกียร์มักเป็นแบบอัตโนมัติ หรืออาจเป็นเกียร์แบบรถครอบครัว คืออาศัยระบบคลัตช์แรงเหวี่ยง ทำให้ผู้ขับขี่ไม่ต้องพะวงกับการบีบคลัตช์ ระบบขับเคลื่อนมักเป็นแบบขับเคลื่อน 4 ล้อตลอดเวลา แต่มีเกียร์พิเศษช่วยเพิ่มแรงบิด หรือเกียร์สโลว์ที่ช่วยเพิ่มแรงเวลาปีนป่าย แต่ความเร็วของรถจะลดลงไปด้วย ส่วนระบบกันสะเทือน ด้านหน้าจะเหมือนรถเอทีวีส่วนใหญ่ คือเป็นแบบอิสระ ปีกนกสองชั้น คอยล์สปริง สอดตรงกลางด้วยเพลาขับเคลื่อนล้อหน้า ส่วนด้านหลังเป็นแบบคานแข็ง แต่มีการใช้ตัวของเพลาได้ (นิยมใช้เพลาขับเคลื่อนแบบรถยนต์) คือแขนยึดเพลาท้ายทั้งสอง ประเภทที่ 3 ส่วนใหญ่เป็นแบบ 2 จังหวะ ความจุกระบอกสูบ 200 ซีซีขึ้นไป เน้นความเร็วตั้งแต่เร็วระดับใช้งานปกติจนถึงระดับแข่งขัน ต้นตอของความเร็วมาจากเครื่องยนต์ระบายความร้อนด้วยอากาศ (ในรุ่นที่ราคาไม่แพงนัก) จนไปถึงระบายความร้อนด้วยน้ำ (ราคาแพง หรือรุ่นที่ใช้สำหรับแข่ง) ระบบคลัตช์และเกียร์เป็นแบบคลัตช์มือ มีหลายเกียร์ อัตราเร่งฉับไว รถแบบนี้นิยมขับเคลื่อนเพียงแค่ 2 ล้อหลัง ระบบกันสะเทือนด้านหน้าเป็นปีกนก 2 ชั้น คอยล์สปริง ส่วนกันสะเทือนหลังมักเป็นแบบสะวิงอาร์ม คานแข็ง ใช้โช้ก อัพเดี่ยว แต่ประสิทธิภาพสูง และมักใช้โซ่ขับเคลื่อนเพื่อกินแรงเครื่องยนต์ให้น้อยที่สุด ระบบเบรกมักเป็นดิสก์เบรกทั้งหน้า และหลัง (รุ่นไม่แพงมากนักอาจจะเป็นแบบดรัมเบรกหน้า) รถประเภทนี้ไม่นิยมเอามาใช้งานเพราะกินน้ำมันค่อนข้างมาก สำหรับประเทศไทยมีมติครม.อนุมัติแก้ไขร่างพ.ร.บ.รถยนต์ 2 ฉบับ อนุมัติเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2555 กำหนดให้รถเอทีวี วิ่งบนท้องถนนได้ แต่ยังต้องส่งเรื่องไปยังสำนักงานคณะกรรม การกฤษฎีกาให้ตรวจพิจารณาตามกระทรวงคมนาคมเสนอก่อน ซึ่ง ณ ปัจจุบันวันที่ตอบรถเอทีวียังไม่ได้รับอนุญาตให้นำมาวิ่งบนท้องถนนทั่วไป หน้า 24
Posted on: Fri, 09 Aug 2013 04:16:08 +0000
Trending Topics
Recently Viewed Topics
© 2015