(REPEAT) - TopicsExpress



          

(REPEAT) ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์ก: ดาวโจนส์ปิดบวก 30.34 จุด จากความหวังเฟดเดินหน้า QE ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- จันทร์ที่ 5 สิงหาคม 2556 05:54:07 น. ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดเพิ่มขึ้นเมื่อวันศุกร์ (2 ส.ค.) หลังจากที่เคลื่อนไหวผันผวนในระหว่างวัน โดยนักลงทุนผิดหวังตัวเลขจ้างงานเดือนก.ค.ที่เพิ่มขึ้นน้อยเกินคาด แต่ในขณะเดียวกันก็มองว่า ข้อมูลดังกล่าวอาจทำให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ตัดสินใจเดินหน้ามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจต่อไป แทนการลดวงเงินซื้อพันธบัตรในเร็วๆนี้อย่างที่ตลาดหวั่นเกรง ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์บวก 30.34 จุด หรือ 0.19% ปิดที่ 15,658.36 จุด, ดัชนี S&P 500 เพิ่มขึ้น 2.80 จุด หรือ 0.16% ปิดที่ 1,709.67 จุด และดัชนี Nasdaq เพิ่มขึ้น 13.85 จุด หรือ 0.38% ปิดที่ 3,689.59 จุด สำหรับตลอดทั้งสัปดาห์ ดัชนีดาวโจนส์ปรับตัวขึ้น 0.6% ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นเป็นสัปดาห์ที่ 6 ติดต่อกัน ขณะที่ S&P 500 ไต่ขึ้น 1.1% ส่วน Nasdaq บวก 2.1% ตลาดหุ้นนิวยอร์กเปิดปรับตัวลงหลังจากที่มีการเปิดเผยตัวเลขจ้างงานและอัตราว่างงานที่ถูกจับตาอย่างใกล้ชิด และเคลื่อนไหวในแดนลบเกือบตลอดช่วงการซื้อขายภาคเช้า กระทรวงแรงงานสหรัฐเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรปรับตัวเพิ่มขึ้น 162,000 ตำแหน่งในเดือนก.ค. ขณะอัตราว่างงานลดลงสู่ระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนธ.ค.2551 ที่ 7.4% จากระดับ 7.6% ในเดือนมิ.ย. โดยตัวเลขจ้างงานเดือนล่าสุดนี้เพิ่มขึ้นน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 175,000 ราย ซึ่งบ่งชี้ให้เห็นว่าการขยายตัวทางเศรษฐกิจที่เป็นไปอย่างเชื่องช้าจะส่งผลกระทบต่อการจ้างงาน อันเนื่องมาจากภาษีที่สูง และการลดการใช้จ่ายภาครัฐส่งผลให้เศรษฐกิจยังไม่กระเตื้องขึ้นมากนักในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา แม้ตัวเลขการจ้างงานยังคงแข็งแกร่งในปีนี้ ไมเคิล เฟโรลี หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์จากเจพี มอร์แกน ระบุว่า รายงานภาวะตลาดแรงงานเดือนก.ค.ค่อนข้างน่าผิดหวัง แม้ตัวเลขไม่ได้ถือว่าเลวร้ายมาก แต่เมื่อลงรายละเอียดพบว่าข้อมูลอยู่ในด้านที่อ่อนแอ ซึ่งส่งผลต่อมุมมองเกี่ยวกับการขยายตัวของเศรษฐกิจในช่วงต้นไตรมาส 3 โดยเขากล่าวว่า แม้อัตราว่างงานออกมาดี แต่ก็ถูกกลบด้วยอัตราการมีส่วนร่วมในกำลังแรงงานที่ลดลง อย่างไรก็ตาม ตลาดได้ดีดตัวสูงขึ้นในช่วงบ่าย โดยนักลงทุนกลับมามองข่าวร้ายเป็นข่าวดี เนื่องจากข้อมูลดังกล่าวอาจทำให้เฟดลังเลและมีความระมัดระวังมากขึ้นในการลดขนาดโครงการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ในเร็วๆนี้ สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจอื่นๆที่มีการเปิดเผยในวันศุกร์ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐรายงานว่า ยอดการบริโภคส่วนบุคคลเดือนมิ.ย.ปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.5% จากเดือนก่อนหน้านี้ ขณะที่รายได้ส่วนบุคคลขยายตัว 0.3% ซึ่งบ่งชี้ถึงสัญญาณการขยายตัวทางเศรษฐกิจ เหม่ย หลี่ นักวิเคราะห์จากเอฟทีเอ็น ไฟแนนเชียล ระบุว่า แม้รายได้และการบริโภคส่วนบุคคลขยายตัว แต่ก็ไม่ถือว่าดีมาก โดยราคาพลังงานที่สูงขึ้นทำให้ผู้บริโภคมีกำลังซื้อลดลงและทำให้ต้องระมัดระวังการใช้จ่ายมากขึ้น นักวิเคราะห์มองว่า ท่ามกลางตลาดแรงงานที่ชะลอตัวและเงินเฟ้อที่สูงขึ้น รายได้และการใช้จ่ายผู้บริโภคจะอยู่ภายใต้แรงกดดันในไตรมาส 3 นอกจากนี้ กระทรวงพาณิชย์ยังได้เปิดเผยยอดสั่งซื้อของโรงงานที่เพิ่มขึ้นเป็นเดือนที่ 3 ติดต่อกันในเดือนก.ค. เพราะได้แรงหนุนจากยอดสั่งซื้อสินค้าคงทน ในส่วนของข่าวภาคธุรกิจนั้น หุ้นเอไอจีบวก 2.7% หลังจากที่กลุ่มบริษัทประกันรายใหญ่ประกาศจ่ายเงินปันผลครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2551 รวมถึงอนุมัติการซื้อหุ้นคืนถึง 1 พันล้านดอลลาร์ หุ้นลิงก์อินทะยาน 11% หลังบริษัทเพิ่มคาดการณ์ยอดขายตลอดทั้งปี หุ้นเชฟรอนร่วง 1.18% หลังบริษัทน้ำมันยักษ์ใหญ่รายงานผลกำไรที่ลดลงในไตรมาส 2 โดยมีสาเหตุส่วนใหญ่มาจากสภาพตลาดที่อ่อนแอลงสำหรับน้ำมันดิบและผลิตภัณฑ์น้ำมัน ข้อมูลของธอมสัน รอยเตอร์ระบุว่า บริษัทจดทะเบียน S&P 500 ได้รายงานผลกำไรไตรมาส 2 แล้วราว 75% ซึ่ง 67.5% ในจำนวนนี้มีผลกำไรดีกว่าคาดการณ์ และประมาณ 55% มีรายได้สูงกว่าคาด ในบรรดาหุ้นกลุ่มสำคัญๆในดัชนี S&P 500 นั้น กลุ่มผู้บริโภคเป็นแกนนำหุ้นบวก ขณะที่กลุ่มพลังงานอ่อนแรง ดัชนีความผันผวน VIX ของตลาด CBOE ซึ่งเป็นดัชนีชี้วัดความวิตกกังวลของตลาดหุ้น ลดลง 7.42% สู่ระดับ 11.98 สะท้อนให้เห็นถึงมุมมองที่เป็นบวกของตลาด
Posted on: Sun, 04 Aug 2013 23:53:51 +0000

Trending Topics



� germánsky

Recently Viewed Topics




© 2015