บล.ดีบีเอสวิคเคอร์ส : - TopicsExpress



          

บล.ดีบีเอสวิคเคอร์ส : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน 25/10/56“ยังไม่ทิ้งแกว่ง...ซื้อ/ถือเหนือ 1460” กลยุทธ์การลงทุน : เมื่อวานนี้ดัชนีผันผวน โดยลงไปต่ำสุด 1445.05 (-12.31 จุด) และขึ้นไปสูงสุด 1466.36 (+9.51 จุด) ปิดตลาดที่ 1466.32 ใกล้กับระดับสูงสุดของวัน โดยหุ้นนำตลาดขึ้นเป็นกลุ่มพลังงาน, ปิโตรเคมี, เกษตรและอาหาร, พาณิชย์, อสังหาริมทรัพย์ มูลค่าซื้อขาย 3 หมื่นกว่าล้านบาท นักลงทุนต่างชาติและพอร์ตบล.ซื้อสุทธิแต่ไม่มาก ส่วนสถาบันในประเทศและรายย่อยขายสุทธิ • สำหรับวันนี้ คาดว่าตลาดยังไม่ทิ้งการแกว่งตัว แม้ว่าจะมีข่าวบวกว่าเศรษฐกิจจีนและสหรัฐยังขยายตัวต่อในช่วงต้นไตรมาส 4/56 โดยผลกระทบจากการปิดสำนักงานรัฐบาลบางแห่งชั่วคราวน้อยกว่าคาด รวมทั้งมีการซื้อเก็งกำไรผลประกอบการไตรมาส 3 แต่แรงซื้อหุ้นก็ยังไม่แข็งแกร่งมากนัก ส่วนหนึ่งเป็นเพราะตลาดซึมซับข่าวบวกไปช่วงก่อนหน้านี้พอสมควร ขณะเดียวกันในประเทศก็มีความไม่แน่นอนด้านการเมืองด้วย ซึ่งหลายกลุ่มที่ต่อต้านรัฐบาลเรื่องการนำร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรมเข้าพิจารณาในสภามีนัดชุมนุมกันในช่วงปลายสัปดาห์-เดือนพ.ย.56 นอกจากนั้นยังกังวลว่าประเด็นเกี่ยวกับเขาพระวิหารอาจจะกดดันมากขึ้นด้วย โดยศาลโลกจะประกาศคำตัดสินในวันที่ 11 พ.ย.56 • กลยุทธ์การลงทุน : การซื้อใหม่เน้นตามด้วยค่าบวก ค่าลบ/ต่ำกว่า 1460 ดูไม่ดี พอร์ตที่มีหุ้นอยู่มากควร Stop Loss/ลดการถือครองหุ้นอีกรอบ แนวต้านระยะสั้นกรณีรีบาวด์ต่ออยู่ที่ 1470-1480 หรือ 1500 จุด สำหรับหุ้นพื้นฐานที่แนะนำซื้อตามด้วยค่าบวกวันนี้ คือ VGIFundamental PickVGI แนะนำซื้อ ราคาปิด 13.10 บาท ราคาเป้าหมาย 14.50 บาท • แม้ว่าธุรกิจสื่อโฆษณาจะถูกกระทบจากการบริโภคภายในที่ชะลอตัว แต่สื่อของ VGI ถูกกระทบจำกัดมาก เพราะเป็นสื่อประเภทไลฟ์สไตล์ มีเดีย ซึ่งกระจายอยู่ทั่วไป ถึงกลุ่มผู้บริโภคเป้าหมายได้ง่ายและราคาถูก แนวโน้มธุรกิจจึงไปได้ดี นอกจากนั้นการเติบโตที่แข็งแกร่งยังมาจากเพิ่มตู้โดยสารของรถไฟฟ้าสายปัจจุบัน การขยายเส้นทางรถไฟฟ้า และการขยายสาขาของโมเดิร์นเทรดอย่างต่อเนื่อง รวมไปถึงการรุกตลาดอาคารสำนักงาน ตลอดจนการแสวงหารูปแบบโฆษณาใหม่ๆ ทำให้อัตราเติบโตกำไรโดดเด่นมาก ประมาณการว่ากำไรสุทธิปี 57-57 จะขยายตัว 26% และ 18% ตามลำดับ (ปิดงบปีสิ้นมี.ค.) ฐานะการเงินแข็งแกร่งมาก โดยเป็นเงินสดสุทธิ นอกจากนั้นการแตกพาร์จาก 1 บาทเป็น 0.10 บาท ตั้งแต่ 27 ก.ย.56 ก็ช่วยเสริมสภาพคล่องในการซื้อขายด้วย แนะนำซื้อ โดยฝ่ายวิจัยฯ DBSV ให้ราคาเป้าหมายไว้เท่ากับ 14.50 บาท ส่วน S&P CIQ Consensus ให้ไว้ที่ 14.10 บาท ซึ่งใกล้เคียงกันปัจจัยต่างประเทศและโภคภัณฑ์+ จีน : ดัชนี PMI ภาคการผลิตเบื้องต้นเดือนต.ค.เพิ่มขึ้นเป็น 50.9 + เอชเอสบีซี โฮลดิงส์เผย ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตเบื้องต้นของจีนในเดือนต.ค. เพิ่มขึ้นแตะ 50.9 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 7 เดือน เทียบกับ 50.2 ในเดือนก.ย. ซึ่งส่งสัญญาณถึงการฟื้นตัวต่อเนื่องของเศรษฐกิจจีน ดัชนีที่สูงกว่า 50 บ่งชี้ว่ากิจกรรมภาคการผลิตของจีนมีการขยายตัวจากเดือนก่อนหน้า• ยูโรโซน : ดัชนี PMI ภาคการผลิต+บริการเบื้องต้นเดือนต.ค.ลดลงเป็น 51.5 บ่งชี้ว่าขยายตัวในอัตราที่น้อยลง • ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิต+บริการเบื้องต้นของยูโรโซนในเดือนต.ค.ลดลงมาอยู่ที่ 51.5 ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 2 เดือน จาก 52.2 ในเดือนก.ย. แต่ยังคงมีการขยายตัวเนื่องจากดัชนีอยู่สูงกว่าระดับ 50 ทั้งนี้ดัชนี PMI ภาคการผลิตเบื้องต้นในเดือนต.ค.เพิ่มขึ้นสู่ระดับ 51.3 สูงสุดในรอบ 2 เดือน จาก 51.1 ในเดือนก่อนหน้า แต่ดัชนี PMI ภาคบริการเบื้องต้นเดือนต.ค.ปรับลงแตะ 50.9 ต่ำสุดในรอบ 2 เดือน เทียบกับ 52.2 ในเดือนก.ย.-/• สหรัฐ : PMI ภาคการผลิตเบื้องต้นเดือนต.ค.ลดลง ยอดขาดดุลการค้าเดือนส.ค.เพิ่มขึ้นแต่น้อยกว่าคาด ส่วนภาคแรงงานรายสัปดาห์อ่อนแอน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์ประเมินไว้ - มาร์กิต อิโคโนมิกส์ เปิดเผยว่าดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตเบื้องต้นเดือนต.ค.ของสหรัฐลดลงสู่ระดับ 51.1 ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนต.ค.55 จากเดือนก.ย.ที่ระดับ 52.8 ทั้งนี้นักวิเคราะห์ประเมินว่า ส่วนหนึ่งเป็นผลจากการปิดทำการบางหน่วยงานของรัฐ อย่างไรก็ตาม ต้องดูดัชนี ISM อีกครั้งหนึ่งว่าเป็นอย่างไร เพราะทางสหรัฐจะให้น้ำหนักกับข้อมูลจาก ISM มากกว่า • ยอดขาดดุลการค้าเดือนส.ค.ของสหรัฐปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.4%MoM แตะที่ 3.88 หมื่นล้านดอลลาร์เนื่องจากยอดส่งออกหดตัวลง 0.1%MoM ส่วนนำเข้าทรงตัว อย่างไรก็ตามยอดขาดดุลการค้าเดือนส.ค. เพิ่มขึ้นน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ว่าจะเพิ่มขึ้นแตะระดับ 3.95 หมื่นล้านดอลลาร์ • กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่าจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 19 ต.ค.56 ปรับตัวลง 12,000 ราย สู่ระดับ 350,000 ราย อย่างไก็ตามตัวเลขดังกล่าวลดลงน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะปรับตัวลงสู่ระดับ 340,000 ราย จากสัปดาห์ก่อนหน้าที่ระดับ 358,000 ราย+ ญี่ปุน่ : เงินเฟ้อเดือนก.ย.เพิ่มขึ้นเป็นเดือนที่ 4 + รัฐบาลญี่ปุ่นเปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนก.ย.ปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.7%YoY ทำสถิติเพิ่มขึ้นเป็นเดือนที่ 4 ติดต่อกัน ทั้งนี้รัฐบาลญี่ปุ่นมีเป้าหมายที่จะเพิ่มเงินเฟ้อเป็น 2% ภายใน 2 ปี โดยในช่วงที่ผ่านมาก็ได้ใช้มาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ หรือ QE เข้ามากระตุ้นเศรษฐกิจ อย่างไรก็ตาม รัฐบาลญี่ปุ่นจะมีการปรับโครงสร้างภาษีโดยการปรับขึ้นอัตราภาษีมูลค่าเพิ่ม ซึ่งทำให้กังวลว่าอาจกระทบต่อการจับจ่ายใช้สอยของผู้บริโภคในปี 57 และทำให้การบรรลุเป้าหมายเงินเฟ้อเป็นไปได้ยากขึ้น+ ตลาดหุ้นสหรัฐปรับขึ้น + ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 15,509.21 จุด เพิ่มขึ้น 95.88 จุด หรือ +0.62% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 1,752.07 จุด เพิ่มขึ้น 5.69 จุด หรือ +0.33% ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 3,928.96 จุด เพิ่มขึ้น 21.89 จุด หรือ +0.56% ตอบรับภาคการผลิตและแรงงานที่ได้รับผลกระทบจากการปิดดำเนินงานชั่วคราวบางสำนักงานของรัฐบาลสหรัฐน้อยกว่าคาด และภาคการผลิตของจีนในเดือนต.ค.56 ปรับขึ้นต่อเนื่องสู่ระดับสูงสุดในรอบ 7 เดือน•/- สัญญาน้ำมันดิบเคลื่อนไหวในกรอบแคบ แต่อาจถูกกดดันจากสต็อกที่สูงขึ้นของสหรัฐ • สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนธ.ค.เพิ่มขึ้นเพียงเล็กน้อย 25 เซนต์ ปิดที่ 97.11 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนธ.ค.ที่ตลาดลอนดอนร่วงลง 81 ปิดที่ 106.99 ดอลลาร์/บาร์เรล - สำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) รายงานว่าสต็อกน้ำมันดิบในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 18 ต.ค. ของสหรัฐพุ่งขึ้น 5.2 ล้านบาร์เรล สู่ระดับ 379.8 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 4 ล้านบาร์เรล+ สัญญาทองคำ COMEX พุ่งขึ้นแรง + สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค.พุ่งขึ้น 16.3 ดอลลาร์ หรือ 1.22% ปิดที่ 1,350.3 ดอลลาร์/ออนซ์ ซึ่งเป็นระดับปิดสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 19 ก.ย.56 โดยเป็นผลจากเศรษฐกิจจีนที่ดีขึ้นทำให้คาดการณ์ว่าอุปสงค์ทองคำจะกระเตื้องขึ้น ทั้งนี้จีนเป็นผู้บริโภคทองคำอันดับ 1 ของโลก รวมทั้งประเมินว่าเฟดจะคงเดินหน้าใช้ QE3 ต่อถึงสิ้นปีนี้ปัจจัยในประเทศและหลักทรัพย์• ยื่นซองประมูลทีวีดิจิตอล 28-29 ต.ค. 56 ประมูลต้นปี 57 ... คาดเป็นผลดีระยะยาวกับกลุ่มสื่อ หุ้น Top Picks คือ RS รองลงมาเป็น BEC สำหรับ VGI โดดเด่นเรื่องการเติบโตจากรายได้ที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นตามการขยายตัวของธุรกิจรถไฟฟ้า • จับตาการประมูลทีวีดิจิตอลในสัปดาห์หน้า โดยผู้สนใจจะมีการยื่นซองประมูลวันที่ 28-29 ต.ค.56 ซึ่งตามข่าวพบว่ามีหลายบริษัทจดทะเบียนให้ความสนใจเข้าประมูล เช่น RS, GRAMMY, BEC, INTUCH ส่วนการประมูลและผลคาดว่าจะออกมาช่วงต้นปี 57 • ผู้ประกอบการสื่อหลายรายประเมินว่า ธุรกิจทีวีดิจิตอลจะขาดทุนในช่วง 2 ปีแรก เพราะมีการลงทุนและค่าเสื่อมสูง ขณะที่รายได้ยังเข้ามาไม่เต็มที่ แต่จะทำกำไรได้ในระยะยาว ดังนั้นบริษัทที่จะทำธุรกิจไปได้ด้วยดี คือ บริษัทที่มีความสามารถในการทำกำไรส่วนอื่นที่ดีอยู่แล้ว ฐานะการเงินแข็งแกร่ง • สำหรับผู้ประกอบการทีวี กล่าวว่า ความไม่ชัดเจนของการประมูลทีวีดิจิตอลมีผลต่อยอดขายทีวีในประเทศ โดยผู้บริหาร LG กล่าวว่ายอดขายทีวีในช่วง 1Q-2Q56 ทรงตัว ส่วนใน 3Q56 ลดลงประมาณ 10% ส่วน 4Q56 คาดว่าจะกระเตื้องขึ้นเล็กน้อย โดยรวมคาดว่ามูลค่าตลาดทั้งปี 56 จะทรงตัวใกล้กับปี 55 ที่ประมาณ 3 หมื่นล้านบาท สำหรับปี 57 คาดว่าตลาดจะเติบโตได้ดีขึ้น ทั้งจากความชัดเจนของทีวีดิจิตอลที่มากขึ้น และมีรายการใหม่ๆ ที่ผู้บริโภคให้ความสนใจเข้ามาถ่ายทอดเพิ่มขึ้น ซึ่งรวมถึงกีฬาระดับโลกด้วย • หลักทรัพย์ในกลุ่มสื่อที่เราคาดว่าจะได้รับประโยชน์จากทีวีดิจิตอล ปัจจัยพื้นฐานดี และกำไรเติบโตสูงในปี 56-57 คือ RS (แนะนำซื้อ ราคาเป้าหมายใน S&P CIQ Consensus เท่ากับ 11.80 บาท) รองลงมาเป็น BEC (แนะนำ Outperform ราคาเป้าหมายใน S&P CIQ Consensus เท่ากับ 68 บาท) สำหรับบริษัทที่ดำเนินธุรกิจสื่ออื่นที่เราชอบเป็น VGI โดยคาดว่ากำไรสุทธิจะขยายตัวได้แข็งแกร่งกว่าค่าเฉลี่ยของกลุ่มที่ 32% ในปี 56 และ 29% ในปี 57 (แนะนำซื้อ ราคาเป้าหมายใน S&P CIQ Consensus เท่ากับ 14.10 บาท)• การเมือง : กลุ่มหน้ากากขาวนัดรวมตัว 26 ต.ค.56 นี้ • กลุ่ม V For Thailand หรือหน้ากากขาวในกทม.ประกาศนัดรวมตัวในวันที่ 26 ต.ค.56 เวลา 16.00 น. บริเวณหน้าตึกสิรินธร โรงพยาบาลรามาธิบดี ขณะที่ชาว V ต่างจังหวัดจะนัดรวมตัวกันเพื่อเช็คกำลังและหารือกันวางแผนเดินทางเข้ามาร่วมชุมนุมใหญ่เพื่อเตรียมตัวสำหรับการทำ สงครามครั้งสุดท้ายโค่นระบอบทักษิณ ที่มา สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย
Posted on: Fri, 25 Oct 2013 03:00:55 +0000

Recently Viewed Topics




© 2015