บล.โกลเบล็ก : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน 02/08/56 Market View : แนวรับ 1,420 / 1,408 Technical : แนวรับ 1,430/1,423 แนวต้าน 1,445 /1,450 หุ้นแนะนำพิเศษ : PTTEP แนวรับ 157.5/155 แนวต้าน 163/166.5 หุ้นเด่นรายวัน : TCJ LHBANK วันพฤหัสบดีตลาดหุ้นไทยปิดบวกหล ดัชนี SET ปิดที่ 1,437.51 จุด เพิ่มขึ้น 14.37 จุด (+1.01%) มูลค่าการซื้อขาย 32,718.54 ล้านบาท นักลงทุนต่างชาติพลิกเป็นขายสุทธิ 319.88 ล้านบาท แนวโน้มตลาดหุ้นไทยทางฝ่ายวิจัย บล.โกลเบล็กฯ คาดมีแนวโน้มผันผวนในกรอบ 1,408- 1,465 ตลาดยังคงไม่มั่นใจต่อสภาวะทางการเมือง และมีแนวโน้มแกว่งในกรอบแคบ โดยมี ปัจจัยบวกผลประกอบการที่เป็นไปตามตลาดคาดและดัชนีตลาดต่างประเทศ ในขณะที่ S50U13 แนวรับ 956 ไม่ต่ำกว่าลงมามีโอกาสทดสอบผ่านแนวต้าน 971 ยืนได้มั่นคงเป็น สัญญาณเริ่มต้นของการกลับตัวขึ้นทางเทคนิค SET50 แนวโน้มแกว่งตัวในกรอบ 966-985 ปิด เหนือ 985 เป็นสัญญาณซื้อ GFQ13 เก็งกำไรในกรอบ 19,140-19,630 GFV13 เก็งกำไรใน กรอบ 19,220-19,710 กลยุทธ์ ระยะสั้นการกลับตัวเข้าใกล้ 1,445 - 1,450 คาดมีแรงขายทำรอบลดความเสี่ยง จากปริมาณการซื้อขายไม่เพิ่มข้นอย่างมีนัยสำคัญ (หรือเป็นสัญญาณชี้นำ) กลุ่มสื่อสารแนวโน้ม ผันผวน แต่มีโอกาสที่จะกลับตัวขึ้นต่อเนื่องจากแรงซื้อระยะสั้น (และสภาพคล่องในการเล่นรอบ) และแนวโน้มผลประกอบการเชิงบวก SIM ADVANC INTUCH JAS TRUEแนวรับ 8.00 กลุ่มธนาคาร การปรับตัวลงซื้อถือหรือซื้อเก็งกำไร BBL SCB KBANK KTB กลุ่มพลังงาน ปรับ ตัวลงซื้อถือระยะกลางเล็กน้อย PTT PTTEP BCP TOP หุ้นรายหลักทรัพย์ BTS BANPUเน้น ยืน 234 TNDT AIM ระยะกลาง ปรับตัวลงแรง ซื้อเข้าเล็กน้อย หุ้นแนะนำพิเศษ PTTEP(ปิด 159 ซื้อเป้าปี 56: 190)เราเลือก PTTEP เป็น TOP Pick ของกลุ่มธุรกิจ น้ำมัน และโรงกลั่น เนื่องจากเป็นผู้ประกอบการที่มีผลการดำเนินงานผันผวนน้อยที่สุดเพราะไม่มี ผลกระทบจากการขาดทุนสต๊อกน้ำมันดิบและสินค้าคงคลัง ขณะที่กำไรสุทธิยังมีศักยภาพในการ เติบโตสูง โดยมีปัจจัยหนุนจากการเพิ่มขึ้นของปริมาณขาย โดยปี 56 จะมีปริมาณการผลิตเพิ่ม ขึ้นประมาณ 13% การเริ่มผลิตของแหล่งมอนทาราในออสเตรเลีย และปี 57 จะมีกำลังการผลิต เพิ่มขึ้นอีกประมาณ 10% จากการเริ่มผลิตของแหล่ง Zawtika ในพม่าซึ่งมีกำลังการผลิต 300 ล้านลูกบาศก์ฟุตวัน ส่วนผลประกอบการปีนี้เราคาดกำไรสุทธิประมาณ 68,500 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 20%yoy หุ้นเด่นรายวัน TCJ (ราคาปิด 16 ซื้อเก็งกำไร) บริษัทเตรียมส่งเครื่องจักรกลหนักให้ผู้รับเหมารายใหญ่ เช่น CK ITD STEC ในช่วง 3Q56 ซึ่งจะเป็นแรงหนุนนให้รายได้ในช่วงครึ่งปีหลังเติบโตโดด เด่น ตั้งเป้ารายได้ทั้งปีเติบโต 20% YoY (ที่มา : ทันหุ้น) LHBANK (ราคาปิด 1.39 ซื้อเก็งกำไร เป้าหมาย 1.74) ผู้บริหารคาดว่าสินเชื่อปีนี้น่าจะ เติบโตราว 20-25% แผ่วลงจากปี 55 ที่เติบโตสูงถึง 50% ผลประกอบการปีนี้ยังมีศักยภาพใน การเติบโตจากการได้รับใบอนุญาตประกอบธุรกิจธนาคารพาณิชย์เต็มรูปแบบตั้งแต่ปลายปี 54 ช่วยขยายฐานพอร์ทสินเชื่อและกระจายความเสี่ยงได้มากขึ้น สินเชื่อด้อยคุณภาพไม่น่าห่วงจาก ส่วนใหญ่เป็นบ้านที่ขายต่อได้ในราคาดี ปัจจัยบวก + สหรัฐรายงานดัชนีการผลิตในเดือนก.ค.พุ่งขึ้นแตะระดับ 55.4 จากเดือนมิ.ย.ที่ระดับ 50.9 โดยดัชนีเดือนก.ค.พุ่งขึ้นสูงสุดนับตั้งแต่เดือนมิ.ย. 2554 และมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาด การณ์ไว้ที่ 52.0สะท้อนว่า ภาคการผลิตของสหรัฐยังคงมีการขยายตัว เพราะได้แรงหนุนจาก ความแข็งแกร่งของยอดสั่งซื้อใหม่ในภาคการผลิต + กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในรอบ สัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 27 ก.ค. ปรับตัวลง 19,000 ราย แตะที่ 326,000 ราย ซึ่งเป็นระดับสูงสุดใน รอบ 5 ปีครึ่ง ตรงข้ามกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 345,000 ราย จากสัปดาห์ก่อน หน้าที่ระดับ 343,000 ราย สะท้อนให้เห็นว่าตลาดแรงงานของสหรัฐฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องส่วน จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานติดต่อกันโดยเฉลี่ย 4 สัปดาห์ ปรับตัวลง 4,500 ราย แตะระดับ 341,250 ราย + ธนาคารกลางยุโรป (ECB) มีมติคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 0.5% ตามคาด หลังจากมีสัญญาณบ่งชี้ว่าเศรษฐกิจยูโรโซนเริ่มฟื้นตัวขึ้นในไตรมาสนี้ โดยนาย มาริโอ ดรากิ ประธานECB แถลงว่า อัตราดอกเบี้ยของ ECB จะยังคงอยู่ที่ระดับปัจจุบัน หรืออาจ จะปรับลดลงในระยะต่อไป พร้อมระบุว่า เศรษฐกิจยูโรโซนมีแนวโน้มฟื้นตัวขึ้นจากภาวะถดถอย + ธนาคารกลางอังกฤษมีมติคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 0.5% และคงเป้าหมายการซื้อ สินทรัพย์วงเงิน 3.75 แสนล้านปอนด์ (5.71 แสนล้านดอลลาร์) + แบงก์ชาติเผยถ้อยแถลงเฟดชี้ชัดเศรษฐกิจสหรัฐฯมีแนวโน้มดีขึ้นและเฟดพยายาม สร้างเงื่อนไขให้ดูภาพเศรษฐกิจสหรัฐฯระยะยาวมากกว่าจะขีดเส้นตายการยกเลิกมาตรการ กระตุ้นเศรษฐกิจ จับตาการประชุดเฟดครั้งหน้าช่วงเดือน ก.ย.นี้ ขณะที่เงินเฟ้อของไทยต่ำยังไม่ ใช่ปัญหา มั่นใจปีนี้เงินเฟ้อไม่หลุดกรอบล่างเป้าหมายนโยบายการเงิน 0.5% + กระทรวงพาณิชย์รายงานภาวะเงินเฟ้อเดือนก.ค.เพิ่มขึ้น 2%YoY ทำสถิติต่ำสุดรอบ ใน 44 เดือน คาดเงินเฟ้อปีนี้อาจต่ำกว่า 3% โดยยืนยันว่าการปรับขึ้นราคา LPGจะกระทบต่อ อัตราเงินเฟ้อเพียงแค่ 0.0057% ต่อเดือน ไม่กระทบต้นทุนอาหารจานด่วน ทั้งนี้กระทรวง พาณิชย์ยืนยันว่าไม่ใช่ภาวะเงินฝืดพร้อมทบทวนเป้าเงินเฟ้อทั้งปีใหม่เดือนหน้า ปัจจัยลบ - สหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขการใช้จ่ายด้านการก่อสร้างในเดือนมิ.ย. ปรับตัวลง 0.6% แตะ ระดับ 8.839 แสนล้านดอลลาร์ จากเดือนพ.ค.ที่ระดับ 8.894 แสนล้านดอลลาร์ ตรงข้ามกับที่นัก วิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 0.5% ปัจจัยที่ต้องจับตา ในประเทศ ต้นเดือนถึงกลางเดือนส.ค. จะเปิดประชุมสภาผู้แทนราษฎรสมัยสามัญทั่วไป 14 ส.ค. วันสุดท้ายในการส่งงบ 2Q56 ของบริษัทจดทะเบียน ต่างประเทศ 2 ส.ค . อียู เปิดเผยดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนมิ.ย. สหรัฐ เปิดเผยข้อมูลจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนก.ค. / ข้อมูลรายได้-การบริโภคส่วน บุคคลเดือนมิ.ย. / ดัชนีภาวะธุรกิจนิวยอร์กเดือนก.ค./ ยอดสั่งซื้อภาคโรงงานเดือนมิ.ย. 5 ส.ค. อิตาลี ฝรั่งเศส เยอรมนี อังกฤษ และอียู เปิดเผยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการเดือนก.ค. อียู เปิดเผยยอดค้าปลีกเดือนมิ.ย. สหรัฐ เปิดเผยดัชนีภาคบริการเดือนก.ค. 6 ส.ค. อิตาลี เปิดเผยการผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนมิ.ย. / GDP 2Q56 (ประมาณการ เบื้องต้น) อังกฤษ เปิดเผยการผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนมิ.ย. เยอรมนี เปิดเผยคำสั่งซื้อภาคการผลิตเดือนมิ.ย. สหรัฐ เปิดเผยตัวเลขการค้าระหว่างประเทศเดือนมิ.ย. รายชื่อหลักทรัพย์ที่ติดเกณฑ์บัญชี Cash Balance * CEN / UV มีผลบังคับใช้ 24 มิ.ย. - 2 ส.ค. 56 * TSF มีผลบังตับใช้ 2 ก.ค. - 9 ส.ค. 56 * AIM / STAR มีผลบังตับใช้ 8 ก.ค. - 16 ส.ค.56 * BTC / CGD / LIVE มีผลบังตับใช้ 23 ก.ค. - 30 ส.ค. 56 * APURE / CKP / SIM / SLC มีผลบังคับใช้ 29 ก.ค.- 6 ก.ย.56 ***เนื่องจากการลงทุนในหลักทรัพย์ ดังกล่าวมีการซื้อขายผิดไปจากสภาพปกติของตลาดดังนั้นผู้ ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ ตลาดหุ้นดาวโจนส์ : เพิ่มขึ้น 128.48 จุด ดัชนีตลาดหุ้นดาวโจนส์ปิดตลาดปรับตัวเพิ่มขึ้น 128.48 จุด ตลาดขานรับข้อมูลเศรษฐกิจ ที่แข็งแกร่งของสหรัฐและจีน โดยเมื่อวานนี้สหรัฐรายงานดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการ ผลิตเดือนก.ค. เพิ่มขึ้นสู่ระดับ 53.7 เพิ่มขึ้นจาก 51.9 จุดในเดือนมิ.ย.และถือป็นระดับสูงสุดใน รอบ 4 เดือนขณะเดียวกันสหพันธ์พลาธิการและการจัดซื้อของจีน (CFLP) ก็รายงานดัชนี PMI ภาคการผลิตของจีนในเดือนก.ค. ปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 50.3 จาก 50.1 ในเดือนมิ.ย. ทำให้ปิดตลาด ดัชนีดาวโจนส์เพิ่มขึ้น 128.48 จุด หรือ 0.83% ปิดที่ 15,628.02, ดัชนี S&P 500 พุ่งขึ้น 21.14 จุด หรือ 1.25% ปิดที่ 1,706.87 จุด และดัชนี Nasdaq พุ่งขึ้น 49.37 จุด หรือ 1.36% ปิดที่ 3,675.74 จุด ตลาดน้ำมัน NYMEX : เพิ่มขึ้น 2.86หรียญ ราคาน้ำมันดิบที่ตลาดล่วงหน้า NYMEX ส่งมอบเดือนก.ย.เพิ่มขึ้น 2.86 ดอลลาร์ต่อ บาร์เรลตลาดได้แรงหนุนเช่นเดียวกับตลาดหุ้นวอลสตรีทคือนักลงทุนขานรับข้อมูลเศรษฐกิจที่ แข็งแกร่งของสหรัฐและจีน โดยเฉพาะตัวเลขภาคการผลิต โดยสหรัฐรายงานดัชนีผู้จัดการฝ่าย จัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตเดือนก.ค. เพิ่มขึ้นสู่ระดับ 53.7 เพิ่มขึ้นจาก 51.9 จุดในเดือนมิ.ย. และถือป็นระดับสูงสุดในรอบ 4 เดือนขณะที่จีนดัชนี PMI ปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 50.3 จาก 50.1 ใน เดือนมิ.ย.นอกจากนี้สหรัฐยังรายงานจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในรอบสัปดาห์ที่สิ้น สุดวันที่ 27 ก.ค. ปรับตัวลง 19,000 ราย ทำให้ปิดตลาดราคาน้ำมันดิบที่ตลาดล่วงหน้า NYMEX ส่งมอบเดือนก.ย.เพิ่มขึ้น 2.86 ดอลลาร์ ปิดที่ 107.89 ดอลลาร์/บาร์เรลส่วนน้ำมันดิบ BRENT ที่ตลาดล่วงหน้ากรุงลอนดอนส่งมอบเดือนก.ย.เพิ่มขึ้น 1.84 ดอลลาร์ ปิดที่ 109.54 ดอลลาร์/บาร์เรล ตลาดหุ้นนิกเกอิ ตลาดคลายความกังวลเกี่ยวกับมาตรการQE และขานรับกับดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตของจีนในเดือนก.ค. ปรับตัวขึ้นเล็กน้อยสู่ระดับ 50.3 การทดสอบยืนGAP แนวต้านบริเวณ 14,000-14,115 จะเป็นสัญญาณบวกของการกลับตัวทางเทคนิคต่อเนื่อง โดยมี แนวต้านเป้าหมายต่อไปเพื่อปิดGAP 14,376 / 14,533 ในขณะที่แนวรับหลักอยู่SMA75วัน 13,600 ตลาดหุ้นฮั่งเส็ง ระดับดัชนีทดสอบผ่านยืนแนวต้านจิตวิทยา 22,000 ขึ้นมาเป็นสัญญาณซื้อสำคัญในระยะ สั้น โดยได้รับปัจจัยหนุนจากดัชนีPMIของจีนที่เคลื่อนไหวเหนือระดับ 50 เป็นเดือนที่ 10 ซึ่งบ่งชี้ ว่าภาคการผลิตของจีนยังคงขยายตัว และมีโอกาสที่จะต่อยอดการแกว่งตัวขาขึ้นUptrend Channel ระยะสั้นจะมีแนวต้านต่อไป 22,300 โดยมีเส้นค่าเฉลี่ย5วันทำหน้าที่เส้นแนวรับขาขึ้น ที่มา อีไฟแนนซ์ไทย
Posted on: Fri, 02 Aug 2013 03:56:43 +0000
Trending Topics
Recently Viewed Topics
© 2015