วิตามิน 8 ชนิด - TopicsExpress



          

วิตามิน 8 ชนิด ที่ทำให้ชีวิตดีขึ้น ช่วงนี้ผู้เขียนมีงานหลายชิ้นที่ต้องทำให้เสร็จในเวลาเดียวกัน ซึ่งในงานเหล่านั้น การรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับโรคที่บริษัทประกันใช้พิจารณาว่าจะรับหรือไม่รับประกันผู้ที่ยื่นใบคำขอเอาประกันเข้ามา ก็ทำให้ผู้เขียนเกิดไอเดียและเป็นที่มาของบทความที่ท่านกำลังอ่านอยู่เรื่องนี้ อันที่จริง ผู้เขียนกำลังเตรียมการสอนการขายโดยใช้หลัก FABE ซึ่งเป็นคำย่อที่มาจากภาษาอังกฤษ 4 คำคือ 1) Feature ที่แปลว่าจุดเด่นหรือลักษณะพิเศษ 2) Advantage หรือข้อได้เปรียบ 3) Benefit ที่แปลว่าผลประโยชน์หรือกำไร และ 4) Evident ที่แปลว่าหลักฐาน ซึ่งหลักการ FABE นี้เป็นแนวทางการขายเบื้องต้นที่ได้รับการยอมรับ ดังนั้น เมื่อต้องเกี่ยวข้องกับอักษรภาษาอังกฤษเข้า ทำให้ผู้เขียนนึกถึงวิตามินที่จำเป็นต่อร่างกาย ซึ่งบางชนิดก็สามารถสังเคราะห์ขึ้นมาเองได้ แต่บางชนิดร่างกายสังเคราะห์เองไม่ได้ ผู้เขียนเองก็ไม่ใช่ผู้มีความรู้ในเรื่องเหล่านี้ดีแต่อย่างใด ดังนั้น เมื่อลองค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับวิตามิน ก็ทำให้ได้รู้ว่า วิตามินที่จำเป็นต่อร่างกายของคนเรา หลักๆมี 8 ชนิดครับ ได้แก่ วิตามิน A, B, C, D, E, F, K และ P คราวนี้มาทำความรู้จักวิตามินทั้ง 8 ชนิดนี้ให้ดียิ่งขึ้นกันครับ วิตามิน A วิตามิน A เป็นวิตามินที่มีความสำคัญต่อประสิทธิภาพการทำงานของดวงตา มีความจำเป็นต่อการมองเห็นในเวลากลางคืน ป้องกันโรคตามัวในเวลากลางคืน (Night Blindess) ช่วยสร้างภูมิคุ้มกันและทำให้หายป่วยเร็วขึ้น แบ่งเป็น 3 กลุ่มครับ คือ วิตามิน A 1 = Attitude (ทัศนคติ) วิตามินเอ 1 ประกอบด้วยสารที่จำเป็นต่อการมองสิ่งต่างๆที่เกิดขึ้นในชีวิตอย่างคนที่มีความสุข สำหรับคนที่ขาดวิตามินเอ 1 เวลามองหาทางออกหรือมองเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับชีวิต จะพบเจอแต่เรื่องที่มืดมนและเป็นไปไม่ได้ ต่างกับคนที่มีวิตามินชนิดนี้ในปริมาณที่เพียงพอ จะช่วยทำให้การมองทางออกของปัญหาในชีวิตแจ่มชัดขึ้น และแม้เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจะไม่เป็นไปตามแผนการที่วางไว้ ก็สามารถทำใจให้มีความสุขได้ง่ายอย่างน่าประหลาดใจ วิตามิน A 2 = Artist (ศิลปิน) ประโยชน์โดยตรงที่ได้จากการเป็นคนมีศิลปะอยู่ในหัวใจ จะช่วยทำให้เป็นคนมองโลกแบบยืดหยุ่น และมองสิ่งรอบตัวด้วยจิตใจที่เปิดกว้างไร้ขอบเขต ซึ่งช่วยเสริมสร้างการทำงานของวิตามิน A 1 ให้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น วิตามิน A 3 = Adventure (การผจญภัย) วิตามิน A3 จะเป็นตัวกระตุ้นความมีชีวิตชีวาให้กับชีวิตที่เต็มไปด้วยระเบียบแบบแผนมากเกินไป เนื่องจากมีส่วนประกอบของ Anti-Oxidant ที่ช่วยป้องกันการตีกรอบตัวเองในการลองทำสิ่งใหม่ๆ ในรายของคนที่ชีวิตประสบแต่ความผิดหวัง หากได้รับวิตามิน A3 ในปริมาณที่พอเหมาะก็จะช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันความเศร้าสร้อยหงอยเหงาและอาจได้พบแนวทางที่จะทำให้ชีวิตประสบความสำเร็จจากการได้ไปแสวงหาสิ่งใหม่ๆนอกกรอบของตนเองก็เป็นได้ ทีนี้มาถึงวิตามิน B บ้างครับ วิตามิน B วิตามิน B มีประโยชน์ในการช่วยซ่อมแซมปลายประสาทที่สึกหรอ รักษาอาการเจ็บปวดจากการปวดศีรษะไมเกรน บรรเทาอาการล้าของสายตา ช่วยระบบย่อยอาหาร ช่วยให้ระบบประสาท กล้ามเนื้อ และหัวใจ ทำงานเป็นปกติ ช่วยทำให้ความคิด ความจำ และสติปัญญาดีขึ้น ป้องกันโรคอัลไซเมอร์ บรรเทาโรคลมชัก ช่วยในการเผาผลาญไขมันและโคเลสเตอรอล ช่วยระบบการไหลเวียนเลือดและความดันโลหิต ลดอาการวิงเวียนศีรษะจากน้ำในหูไม่เท่ากัน ช่วยกระตุ้นการเพิ่มจำนวนเซลล์ ทำให้ผมและผิวสุขภาพดี แผลหายเร็วป้องกันโรคโลหิตจาง ป้องกันการเกิดโรคหัวใจ และนิ่วในไต วิตามิน B ก็มีอยู่หลายกลุ่มเช่นเดียวกัน เริ่มตั้งแต่ วิตามิน B1 = Believe (ความเชื่อ) ประโยชน์ที่ได้รับโดยตรงจากวิตามิน B1 ก็คือ ช่วยสร้างภูมิคุ้มกันความล้มเหลว และทำให้ระบบกล้ามเนื้อและหัวใจที่เจ็บปวดจากความล้มเหลวกลับมาทำงานได้เป็นปกติ ผู้ที่ได้รับวิตามิน B1 ในปริมาณที่มากพอ จะทำให้ระบบไหลเวียนเลือดให้ทำงานได้ดีขึ้น ป้องกันการเกิดโรคความดันที่มักรุนแรงขึ้นตามสภาพของความกดดันจากอุปสรรคภายนอก วิตามิน B2 = Balance (ความสมดุล) วิตามิน B2 เป็นวิตามินที่ได้จากการนอนหลับพักผ่อนเพียงอย่างเดียว มีส่วนช่วยป้องกันสายตาอ่อนล้าจากการจดจ่อทำตามเป้าหมายเป็นเวลานานๆ และช่วยชลอความแก่จากการทำงานหนัก ฟื้นฟูความสดใสของร่างกายและจิตใจให้กลับดีเหมือนเดิม ในรายที่ขาดวิตามิน B2 เป็นเวลานานจะสะท้อนออกมาให้เห็นในรูปของความจำสั้น ความคิดสับสน และขาดสมาธิ หนักสุดอาจส่งผลให้เป็นโรคอัลไซเมอร์ได้ วิตามิน B3 = Breakfast (อาหารเช้า) วิตามิน B3 จะช่วยลดอาการของโรคหัวใจและโรคลมชัก (ใจหวิว หิวจนมือสั่น) การขาดวิตามิน B3 จะส่งผลต่อประสิทธิภาพการทำงานในช่วงเช้า ทำให้คิดอะไรได้ช้า ในรายที่ขาดวิตามิน B3 เป็นเวลานาน จะส่งผลต่อระบบกระเพาะและลำไส้ ทำให้จิตใจหมองมัว (เพราะกลัวสแกนนิ้วไม่ทัน) และอาจเกิดสิวขึ้นได้เพราะต้อง Shut Down ระบบขับถ่ายเป็นเวลานานในช่วงเช้า วิตามิน C วิตามิน C เป็นสารต้านอนุมูลอิสระในร่างกาย ช่วยให้หลอดเลือดแข็งแรง ช่วยในการสร้างเนื้อเยื่อคอนลาเจน สร้างเนื้อเยื่อของเอ็นกระดูกอ่อน สามารถป้องกันและรักษาการอักเสบอันเนื่องมาจากแบคทีเรียและไวรัสได้ วิตามิน C ที่ร่างกายต้องการมีดังนี้ครับ วิตามิน C1 = Creative (การมีความคิดสร้างสรรค์) วิตามิน C1 จะช่วยให้หลอดความคิดไม่แข็งตัว สามารถสร้างสรรค์แนวคิดใหม่ๆในการแก้ปัญหาได้ ป้องกันอาการไอเดียอักเสบ ผู้ที่มีวิตามิน C1 ปริมาณที่มากพอจะสามารถแก้ไขปัญหาต่างๆได้เป็นอย่างดีด้วยความสามารถของตนเอง ทำให้เป็นที่ชื่นชอบของเจ้านาย จัดได้ว่าเป็นวิตามินที่ส่งผลดีต่อหน้าที่การงานมากที่สุดตัวหนึ่ง วิตามิน C2 = Copy (การลอกเลียนแบบ) วิตามิน C2 นี้ร่างกายไม่สามารถสังเคราะห์เองได้ บ่อยครั้งในรายที่ต้องการวิตามินชนิดนี้มากๆจึงได้มาจากการสังเกตสิ่งที่คนที่ประสบความสำเร็จเขาทำกัน และจดจำนำไปปรับใช้ให้เกิดประโยชน์กับตัวเอง วิตามิน C3 = Courage (ความกล้าหาญ องอาจ) วิตามิน C3 เป็นวิตามินที่ช่วยเสริมการทำงานของวิตามิน C1 และวิตามิน C2 ให้ทำงานได้อย่างเต็มที่ ทั้งในรายที่กล้าคิดและทำในสิ่งใหม่ก็ดี และในรายที่ต้องทำในสิ่งที่ขัดกับบุคลิกของตนเองเพราะคิดไม่ออกเลยลอกเลียนก็ดี ก็ยังไม่อาจสำเร็จได้ตามที่ตั้งใจ วิตามิน C3 จะมีส่วนช่วยทำให้ร่างกายจิตใจเข้มแข็งมากยิ่งขึ้นในการยอมรับผลลัพธ์ที่ไม่สมปรารถนานั้น วิตามิน D วิตามิน D มีประโยชน์ในการช่วยกระตุ้นการดูดซึมแคลเซียมและฟอสฟอรัส มีความสำคัญในการสร้างความแข็งแรงของกระดูกและฟัน ควบคุมความดัน ช่วยสังเคราะห์สารที่จำเป็นในการสร้างคอนลาเจน วิตามิน D ที่ร่างกายต้องการ มีอยู่ด้วยกัน 5 ชนิด คือ วิตามิน D1 = Discipline (ความมีวินัย) วิตามิน D2 = Diligent (ขยันหมั่นเพียร) วิตามิน D3 = Determination (ความตั้งใจแน่วแน่) วิตามิน D4 = Devote (เสียสละ ทุ่มเท อุทิศตัว) โดยวิตามิน D ทั้ง 4 ชนิดนี้จะช่วยสร้างความแข็งแรงให้กระดูกและฟัน อันจะส่งผลดีโดยตรงต่อพฤติกรรมการทำงานหรือการแก้ปัญหาแบบกัดไม่ปล่อย วิตามิน D5 = Difference (ความแตกต่าง) เป็นวิตามินที่ช่วยสังเคราะห์สารที่จำเป็นต่อการสร้างคอนลาเจน อันจะช่วยให้ผิวพรรณกระจ่างใสดูเปล่งปลั่ง เตะตาคนทั่วไปที่ไม่ว่าจะทำอะไรก็มักจะทำแบบเหมือนๆกัน วิตามิน E วิตามิน E มีประโยชน์ในการต้านอนุมูลอิสระ ป้องกันโรคที่เกี่ยวข้องกับการอักเสบเรื้อรัง รวมถึงโรคมะเร็ง โรคอัลไซเมอร์ โรคหัวใจ และความชรา ช่วยให้ดูอ่อนกว่าวัย ป้องกันและสลายลิ่มเลือด บรรเทาอาการอ่อนเพลีย ลดความเสี่ยงต่อการเป็นโรคกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด หรืออัมพฤกษ์ อัมพาต วิตามิน E ที่ว่านี้ได้แก่ Energetic (ความมีชีวิตชีวา กระปรี้กระเป่า กระฉับกระเฉง) ในรายที่ได้รับวิตามิน E เพียงพอ จะยิ่งช่วยต้านอนุมูลอิสระที่คอยควบคุมไม่ให้เราทำอะไรได้โดยอิสระ เสริมสร้างความคล่องแคล่วว่องไวจะหยิบจับทำอะไรก็ดูทันใจทันเวลาไปเสียหมด เลือดไม่มีโอกาสแข็งตัว เพราะไม่มัวจับเจ่าเฉื่อยแฉะ ซึ่งการอยู่นิ่งๆเฉยโดยขาดความกระตือรือร้นเป็นเวลานานๆ ย่อมเสี่ยงต่อการเป็นอัมพฤกษ์ อัมพาต สำหรับผู้สูงอายุที่มีวิตามิน E เกือบทุกคน จะดูอ่อนกว่าวัยอย่างเห็นได้ชัด วิตามิน F วิตามิน F เป็นไขมันไม่อิ่มตัว มีประโยชน์ในการเผาผลาญไขมันอิ่มตัว ช่วยป้องกันไม่ให้คอเลสเตอรอลสะสมที่ผนังหลอดเลือด ช่วยในเรื่องการเจริญเติบโต ช่วยกระตุ้นการทำงานของต่อมต่างๆ วิตามิน F ได้แก่ Flexible (ยืดหยุ่น ปรับตัวง่าย) คนที่ขาดวิตามินชนิดนี้ จะไม่ค่อยยืดหยุ่น ปรับตัวเข้ากับสภาพแวดล้อมและการเปลี่ยนแปลงได้ยาก เพราะมีความเคยชินสะสมอยู่ที่ผนังหลอดเลือด การได้รับวิตามิน F เข้าไปจะช่วยในเรื่องของการเผาผลาญความเคยชินที่ไม่มีประโยชน์ดังกล่าวออก อันส่งผลโดยตรงในการป้องกันโรคหัวใจล้มเหลว วิตามิน K เป็นวิตามินที่ช่วยในกระบวนการสลายลิ่มเลือด ป้องกันอาการเลือดไหลไม่หยุด ป้องกันกระดูกเปราะบาง ช่วยซ่อมกระดูก ลดการสูญเสียแคลเซียมทางปัสสาวะ วิตามิน K ได้แก่ Knowledge การได้รับวิตามิน K อย่างต่อเนื่องในปริมาณที่เพียงพอต่ออาชีพการงานและการใช้ชีวิต จะช่วยสลายความไม่รู้ ป้องกันอาการความโง่ไหลไม่หยุด ช่วยป้องกันไม่ให้ความรู้เปราะบาง ซึ่งตัว Knowledge มี 3 ประเภทคือ 1) เรื่องที่รู้ก็ได้ไม่รู้ก็ได้ 2) เรื่องที่ควรรู้ 3) เรื่องที่จำเป็นต้องรู้ ความรู้ประเภทแรกไม่ค่อยมีความจำเป็นต่อร่างกายนัก ถ้าเป็นในกลุ่มที่ต้องการมีเพื่อการดำรงชีวิต ควรเสริมความรู้ประเภทที่สอง แต่ในรายที่ประกอบวิชาชีพเฉพาะทาง ควรเสริมความรู้ประเภทที่สามในสายงานของตนอย่างต่อเนื่องครับ วิตามิน P วิตามิน P ช่วยเพิ่มความแข็งแรงให้ผนังหลอดเลือดฝอย ช่วยป้องกันการฟกช้ำ ช่วยเพิ่มการดูดซึมของสารต่างๆผ่านผนังเส้นเลือด ช่วยสร้างภูมิต้านทานและป้องกันการติดเชื้อ ป้องกันโรคเลือดออกตามไรฟัน ช่วยรักษาอาการบวมน้ำและการวิงเวียนศีรษะที่เป็นผลมาจากโรคของหูชั้นใน วิตามิน P มีอยู่หลายชนิดเช่นกัน เริ่มจาก วิตามิน P1 = Planning (การวางแผน) วิตามิน P1 จะช่วยสร้างภูมิต้านทานความล้มเหลวของงานที่ไร้การวางแผน และป้องกันการติดเชื้อที่เกิดจากงานแทรกซ้อนต่างๆ วิตามิน P2 = Positive Thinking-Speaking-Doing (การคิดบวก พูดบวก ทำบวก) วิตามิน P2 จะทำงานร่วมกับวิตามิน P1 ช่วยป้องกันการฟกช้ำที่อาจเกิดขึ้นจากการพยายามทำงานให้สำเร็จลุล่วงตามแผนงานที่วางไว้ วิตามิน P3 = Patient (อดทนอดกลั้น มีขันติ) วิตามินตัวนี้ช่วยป้องกันเลือดออกตามไรฟันที่เกิดจากการกัดกรามแบบอดรนทนไม่ได้ เพราะเจอนโยบายหรือสภาพแวดล้อมที่ไม่เอื้อต่อการบรรลุเป้าหมาย วิตามิน P4 ซึ่งเป็นวิตามินชนิดสุดท้าย ได้แก่ Professional (ความเป็นมืออาชีพ) วิตามินตัวนี้สามารถสังเคราะห์ได้เองจากการลงมือทำสิ่งใดซ้ำๆเป็นเวลานาน จนเกิดการตกผลึกทางทักษะเฉพาะด้าน ซึ่งทักษะหรือความชำนาญเฉพาะด้านนี้จะช่วยสร้างมูลค่าเพิ่มให้เกิดขึ้นในงานที่เราทำ หวังเป็นอย่างยิ่งว่าความรู้ในเรื่องวิตามิน 8 ชนิดที่จะทำให้ชีวิตดีขึ้นจะช่วยสร้างภูมิคุ้มกันความล้มเหลวและเสริมสร้างองค์ประกอบที่จำเป็นในการบรรลุเป้าหมายที่ทุกท่านต้องการอย่างมีความสุขทั้งกายและใจครับ แมวเหมียวสิบชีวิต
Posted on: Sun, 24 Nov 2013 22:41:16 +0000

Trending Topics



Recently Viewed Topics




© 2015