บล.โกลเบล็ก : - TopicsExpress



          

บล.โกลเบล็ก : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน 26/07/56 Market View : แนวรับ 1,450 / 1,439 Technical : แนวรับ 1,450/1,439 แนวต้าน 1,463 /1,475 หุ้นแนะนำพิเศษ : PTTEP แนวรับ 159.5/157.5 แนวต้าน 166.5/171 หุ้นเด่นรายวัน : BEAUTY CPF วันพฤหัสบดีตลาดหุ้นไทยปิด ดัชนี SET ปิดที่ 1,456.68 จุด ลดลง 44.68 จุด(-2.98%) มูลค่าการซื้อขาย 56,291 ล้านบาท นักลงทุนต่างชาติพลิกเป็นซื้อสุทธิ 376.35 ล้านบาท แนวโน้มตลาดหุ้นไทย ทางฝ่ายวิจัย บล.โกลเบล็กฯ คาดมีแนวโน้มผันผวนในกรอบ 1,437-1,500 ความกังวลต่อภาวะการเมืองเป็นแรงกดดันให้เกิดแรงขาย ในขณะที่ตลาดเข้าสู่ เขตขายมากทำให้มีโอกาสกลับตัวขึ้นทางเทคนิคจากแนวรับ ในขณะที่ S50U13 แท่งเทียนสีดำ ยาวแสดงถึงPanic Sell ระยะสั้นมีแนวรับSMA200วัน 971-972 เป็นแนวรับหลัก SET50 ระหว่างวันปิดเหนือ 990 ไม่ได้มีแนวรับต่อไปที่ 975 มีโอกาสกลับตัวขึ้นทางเทคนิค GFQ13 เก็งกำไรในกรอบ 19,620-19,960 GFV13 เก็งกำไรในกรอบ 19,700-20,040 กลยุทธ์ แรงขายเกิดขึ้นในทุกกลุ่มหลักทรัพย์ ทั้งนี้เกิดจากปัจจัยภายนอก ในขณะที่ผล ประกอบการยังคงเชิงบวก การปรับลงแรงในวันนี้เป็นจังหวะในการซื้อเล่นรอบ กลุ่มธนาคาร BBL KBANK SCB TMB กลุ่มพลังงาน PTTEP PTT BCP กลุ่มสื่อสาร การปรับลงแรงเป็น เป้าหมายของการซื้อเก็งกำไรเพื่อเล่นรอบ JAS ADVANC INTUCH กลุ่มโรงพยาบาล BGH CHG BH กลุ่มรับเหมา ปรับลงแรงซื้อเพิ่ม CK ITD กลุ่มอาหาร CPF TIPCO กลุ่มอสังหาฯ SIRIแนวรับ 2.68-2.64 BLANDแนรับ 1.49 / 1.45 หุ้นรายหลักทรัพย์ WORK CRANE NMG ระยะกลาง ถือ หุ้นแนะนำพิเศษ PTTEP (ปิด 159.50 ซื้อเป้าปี 56: 190 บาท) แจ้งกำไรสุทธิ 2q56 ออกมาที่ 10,664 ล้านบาทลดลง 47%qoq แต่ยังเพิ่มขึ้น 38%yoy กำไรสุทธิที่หดตัวส่วนใหญ่เป็นผลจากรายการ พิเศษคือมีผลขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนสูงถึง 5,000 ล้าน แต่หากไม่รวมรายการดังกล่าว PTTEP ยังมีกำไรปกติประมาณ 15,800 ล้านบาทลดลง 10% QoQ ส่วนแนวโน้มผลประกอบ การใน 3Q56 คาดกำไรปกติจะยังทรงตัวใกล้เคียงกับ 2Q56 แต่คาดกำไรสุทธิจะกลับมาเพิ่มขึ้น เนื่องจากคาดว่าค่าเงินบาทจะไม่อ่อนค่าอย่างรวดเร็วและทำให้บริษัทมีผลขาดทุนจำนวนมาก เหมือน 2Q56 ส่วนทั้งปีเรายังคงประมาณการณ์กำไรสุทธิในปีนี้ไว้ตามเดิมโดยเราคาดกำไรสุทธิ ปีนี้ประมาณ 68,500 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 20%yoy ส่วนเงินปันผล PTTEP ประกาศจ่ายปันผล ระหว่างกาล 3 บาท/หุ้น คิดเป็น Dividend Yield ที่ 1.88% โดยจะขึ้น XD วันที่ 6 ส.ค. และจ่าย ปันผลในวันที่ 23 ส.ค.56 หุ้นเด่นรายวัน BEAUTY (ราคาปิด 24.50 ซื้อเก็งกำไร) บริษัทมีแผนนำสินค้าเข้าไปจัดจำหน่ายในคิงส์ พาวเวอร์ เพื่อเพิ่มช่องทางการจัดจำหน่ายให้เข้าถึงกลุ่มนักท่องเที่ยวต่างชาติมากขึ้น คงเป้ายอด ขายทั้งปีเติบโต 30% YoY (ที่มา : ทันหุ้น) CPF (ราคาปิด 29.75 ซื้อ) ประกาศซื้อกิจการ 2 แห่ง มูลค่ารวม 4.3 พันล้านบาท โดยส่ง บริษัทย่อยซื้อหุ้นบริษัทฟาร์มสุกรในประเทศรัสเซีย 3.15 พันล้านบาท และร่วมลงทุนบริษัทซีพี-เม จิ 1.2 พันล้านบาท เพื่อเพิ่มฐานส่งออกธุรกิจอาหาร โดยคาดว่าจะปิดดีลได้ภายใน 3Q56 ปัจจัยบวก + สหรัฐรายงานยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนหรือสินค้าที่มีอายุการใช้งานนานกว่า 3 ปี พุ่งขึ้น 4.2% ในเดือนมิ.ย. มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะขยับขึ้นเพียง 1.3% ขณะที่ตัวเลขการใช้ จ่ายในภาคธุรกิจ เพิ่มขึ้น 0.7% ในเดือนมิ.ย. มากกว่าที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 0.5% ได้ + อังกฤษเปิดเผยว่า GDP ในช่วง ขยายตัว 0.6% ใน 2Q56 จากที่ขยายตัว 0.3% ใน 1Q56 โดยอุตสาหกรรมหลักๆได้แก่ภาคธุรกิจบริการ การผลิต การก่อสร้าง และเกษตรกรรม(คิด เป็นสัดส่วน 78% ของเศรษฐกิจ)ที่ขยายตัวขึ้นเป็นครั้งแรกในรอบ 3 ปี บ่งชึ้ว่า การฟื้นตัวของ เศรษฐกิจเป็นไปอย่างต่อเนื่อง + มูดี้ส์ฯชื่นชมภาคธนาคารไทยจากที่แม้ว่าภาวะแวดล้อมเศรษฐกิจภายในประเทศดีขึ้น น่าพอใจ แต่มีความพยายามเพิ่มกันสำรองหนี้สูญให้เกินเกณฑ์ธปท.กำหนด โดยมีสัดส่วนดำรง เงินกองทุนสูงกว่าเกณฑ์ BASEL III เป็นการสร้างกันชนป้องกันการสูญเสียซึ่งจะช่วยเพิ่มความ เชื่อมั่นให้ระบบแบงก์ไทย และส่งผลดีต่อการประเมินเรทติ้ง ปัจจัยลบ - สหรัฐรายงานจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกรายสัปดาห์เพิ่มขึ้น 7,000 ราย เพิ่มขึ้นสู่ 343,000 ราย มากกว่าที่คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 340,000 ราย สะท้อนให้เห็นว่าตลาด แรงงานของสหรัฐยังคงผันผวน - ประเด็นการเมืองในประเทศมีน้ำหนักมากขึ้นจากการเตรียมเปิดประชุมสภาผู้แทนรา ษฏรสมัยสามัญทั่วไปในช่วงต้นเดือนส.ค. และจะมีการพิจารณากฏหมายการเมืองที่สำคัญหลาย ฉบับ ปัจจัยที่ต้องจับตา ในประเทศ 26 ก.ค. สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม(สศอ.)แถลงดัชนีอุตสาหกรรมประจำเดือน / กระทรวงพาณิชย์แถลงตัวเลขการส่งออกของไทย สัปดาห์ที่ 3 สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(ส.อ.ท.)แถลงดัชนีความเชื่อมั่นภาค อุตสาหกรรม, ยอดการผลิตและส่งออกรถยนต์ รถจักรยานยนต์และชิ้นส่วนยานยนต์ สัปดาห์ที่ 4 สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง(สศค.)รายงานภาวะเศรษฐกิจการคลัง 31 ก.ค. ธปท.รายงานภาวะเศรษฐกิจไทยประจำเดือน ต่างประเทศ 26 ก.ค. ฝรั่งเศส เปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนก.ค. สหรัฐ เปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคช่วงท้ายเดือนก.ค. 27 ก.ค. จีน เปิดเผยผลกำไรภาคอุตสาหกรรมเดือนมิ.ย. 29 ก.ค. อิตาลี เปิดเผยความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนก.ค. สหรัฐ เปิดเผยดัชนีการผลิตเขตมิดเวสต์ / ยอดทำสัญญาซื้อบ้านที่รอปิดการขายเดือนมิ. ย. 30 ก.ค. เยอรมนี เปิดเผยผลสำรวจความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนส.ค. / ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เบื้องต้นเดือนก.ค. อียู เปิดเผยผลสำรวจความเชื่อมั่นภาคธุรกิจและผู้บริโภคเดือนก.ค. สหรัฐ เปิดเผยดัชนีราคาบ้านเดือนพ.ค. / ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนก.ค. 30 - 31 ก.ค. กำหนดประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ รายชื่อหลักทรัพย์ที่ติดเกณฑ์บัญชี Cash Balance * ITD / VTE มีผลบังคับใช้ 17 มิ.ย. - 26 ก.ค. 56 * CEN / UV มีผลบังคับใช้ 24 มิ.ย. - 2 ส.ค. 56 * TSF มีผลบังตับใช้ 2 ก.ค. - 9 ส.ค. 56 * AIM / STAR มีผลบังตับใช้ 8 ก.ค. - 16 ส.ค.56 * BTC / CGD / LIVE มีผลบังตับใช้ 23 ก.ค. - 30 ส.ค. 56 ***เนื่องจากการลงทุนในหลักทรัพย์ ดังกล่าวมีการซื้อขายผิดไปจากสภาพปกติของตลาดดังนั้นผู้ ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ ตลาดหุ้นดาวโจนส์ : เพิ่มขึ้น 13.37 จุด ดัชนีตลาดหุ้นดาวโจนส์ปิดตลาดปรับตัวเพิ่มขึ้น 13.37 จุด ตลาดขานรับยอดสั่งซื้อสินค้าคง ทนของสหรัฐเพิ่มขึ้นเกินคาด และบริษัทเอกชนหลายแห่งรายงานผลประกอบการออกมาอย่าง แข็งแกร่งอาทิ GM,เฟซบุ๊คและวีซ่าอิงค์ โดยเมื่อวานนกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยยอดสั่งซื้อ สินค้าคงทนของสหรัฐ เดือนมิ.ย. เพิ่มขึ้น 4.2% มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 1.3% อย่างไรก็ตามดัชนีเพิ่มขึ้นเพียงเล็กน้อยเท่านั้นเพราะตลาดยังมีแรงกดดันจากรายงานตัว เลขผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในรอบสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 20 ก.ค.ปรับตัวเพิ่มขึ้น 7,000 ราย สู่ระดับ 343,000 ราย มากกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 340,000 ราย ทำให้ปิดตลาดดัชนีดาวโจนส์เพิ่มขึ้นเพียง 13.37 จุด หรือ +0.09% ปิดที่ 15,555.61 จุด ดัชนี NASDAQ เพิ่มขึ้น 25.59 จุด หรือ +0.71% ปิดที่ 3,605.19 จุด ดัชนี S&P500 เพิ่มขึ้น 4.31 จุด หรือ +0.26%ปิดที่ 1,690.25 จุด ตลาดน้ำมัน NYMEX : เพิ่มขึ้น 10 เซนต์ ราคาน้ำมันดิบที่ตลาดล่วงหน้า NYMEX ส่งมอบเดือนก.ย.เพิ่มขึ้น 10 เซนต์ ตลาดขานรับ ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนของสหรัฐเพิ่มขึ้น4.2% ในเดือนมิ.ย. มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะขยับ ขึ้นเพียง 1.3% อย่างไรก็ตาม ราคาน้ำมันดิบเพิ่มขึ้นเพียงเล็กน้อย เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวล เกี่ยวกับอุปทานน้ำมันในสหรัฐ หลังจาก EIA รายงานว่า การผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐในรอบ สัปดาห์ที่แล้วเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 7.56 ล้านบาร์เรล ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนธ.ค. ปี 2533 ทำให้ปิดตลาดราคาน้ำมันดิบที่ตลาดล่วงหน้า NYMEX ส่งมอบเดือนก.ย.เพิ่มขึ้น 10 เซนต์ ปิดที่ 105.49 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วนน้ำมันดิบ Brent ส่งมอบเดือนก.ย.เพิ่มขึ้น 46 เซนต์ ปิดที่ 107.65 ดอลลาร์/บาร์เรล ตลาดหุ้นนิกเกอิ ดัชนีไม่สร้างจุดสูงใหม่ขึ้นไป และผลประกอบที่ทยอยประกาศการออกมาต่ำกว่าที่ตลาด คาดไว้ ส่งผลให้เกิดแรงขายทำกำไร ทั้งนี้การปรับตัวลงส่วนหนึ่งเป็นการปรับลดภาวะซื้อมาก หาก ตลาดยังขาดปัจจัยบวกเข้ามากระตุ้น แนวโน้มการปรับตัวจะมีแนวรับระหว่างวันหรือ SMA10วัน ที่ทำหน้าที่เส้นแนวรับขาขึ้น 14,450 เป็นจุดรับที่สำคัญ ไม่ควรต่ำกว่าลงมา ตลาดหุ้นฮั่งเส็ง ระดับดัชนีไม่สร้างจุดสูงใหม่และยังไม่สามารถทดสอบผ่านแนวต้านจิตวิทยา 22,000 ส่ง ผลให้นักลงทุนขาดความมั่นใจ ประกอบกับดัชนีPMI ของจีนที่ลดลงสู่ระดับ 47.7 โดยตัวเลขที่ต่ำ กว่า 50 บ่งชี้ว่าภาคการผลิตมีแนวโน้มหดตัว ระยะสั้นของการปรับตัวมีแนวรับสำคัญSMA5วัน 21,750 และแนวรับหลักของการดำรงขาขึ้น 21,500 เป็นเป้าหมายของการทดสอบ ไม่ควรต่ำ กว่าลงมา ที่มา อีไฟแนนซ์ไทย
Posted on: Fri, 26 Jul 2013 04:54:38 +0000

Trending Topics



Recently Viewed Topics




© 2015