หุ้นไทยหมดพลัง - TopicsExpress



          

หุ้นไทยหมดพลัง เผ่นก่อนเจ็บน้อยกว่า หุ้นไทยพลิกดราม่าปิดโลว์ต่ำกว่า 1430 จุด กวาดแมงเม่าตายเกลื่อนฝรั่งเดินหน้าขายต่อไปอีก 1,836.50 ล้านบาท นักวิเคราะห์ชี้ตลาดทุนยังไม่หายกังวลประเด็นเฟดอาจจะปรับลดมาตรการ QE เชื่อหากแม้นหลังวันที่มีข่าวบวก ระวังมีแรงขาย Sell on Fact เพราะก่อนหน้านี้รีบาวน์มาเป็นร้อยจุดแล้ว ทว่าถ้าเป็นลบโดน ประกาศลดขนาด QE หุ้นจะยังถลำลงได้อีก ส่วนทิศทางวันนี้ส่อโดนขายต่อไป ฟินันเซีย ไซรัสมองกรอบดัชนี 1,422 จุด -1,470 จุด ด้านบัวหลวงให้แนวรับลึกถึง 1,350 จุด รายงานภาวะตลาดหุ้นไทยประจำวันที่ 18 มิถุนายน 2556 ยังคงผันผวน ก่อนที่มะรืน "เฟด" น่าจะมีความชัดเจนชัดเจนประเด็นมาตรการ QE ในการประชุมตามเวลาสหรัฐอเมริกาในวันที่ 18-19 มิถุนายนนี้ ทั้งนี้ตลาดหุ้นไทยเปิดรีบาวน์ต่อเนื่องในช่วงเช้าวานนี้บวกกว่า 20 จุด ทว่ามีการแกว่งตลอดวันและค่อยๆ พลิกลบ ลึกหลังเปิดทำการซื้อขายในช่วงบ่ายของวันเดียวกันกระทั่งท้ายวันปิดที่ 1,427.42 จุด ลดลง -43.62 จุด หรือ -2.97% มูลค่าการซื้อขาย 61,645.81 ล้านบาท ****สื่อสาร-แบงก์รุมกด Index วันที่ 18 มิถุนายน 2556 ดัชนีตลาดหุ้นไทยปิดที่ 1,427.42 จุด ลดลง -43.62 จุด หรือ -2.97% ณ เวลา 16:44 น.มีมูลค่าการซื้อขาย 61,592.14 ล้านบาท โดยหลักทรัพย์ที่มีการซื้อขายสูงสุด 5 อันดับได้แก่ 1.INTUCH ปิดที่ 79.00 บาท ลดลง -2.75 บาท มูลค่าการซื้อขาย 3,155.55 ลบ. 2.KBANK ปิดที่ 187.50 บาท ลดลง -6.50 บาท มูลค่าการซื้อขาย 2,645.30 ลบ. 3.JAS ปิดที่ 8.05 บาท ลดลง -0.10 บาท มูลค่าการซื้อขาย 2,610.51 ลบ. 4.ADVANC ปิดที่ 252.00 บาท ลดลง -5.00 บาท มูลค่าการซื้อขาย 2,589.33 ลบ. 5.PTT ปิดที่ 321.00 บาท ลดลง -8.00 บาท มูลค่าการซื้อขาย 2,344.24 ลบ. ****ฝรั่งเดินหน้าขายสุทธิออกต่อไป รายงานข้ออมูลจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยสรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม วันที่ 18 มิถุนายน 2556 แยกประเภทได้ดังนี้ ประเภทนักลงทุน มูลค่าซื้อ(ลบ.) มูลค่าขาย(ลบ.) สุทธิ(ลบ.) นักลงทุนสถาบัน 5,866.70 4,547.71 1,318.99 บัญชีบริษัทหลักทรัพย์ 9,940.67 10,564.51 -623.84 นักลงทุนต่างชาติ 11,339.56 13,176.06 -1,836.50 นักลงทุนทั่วไป 34,498.89 33,357.53 1,141.36 ****นักวิเคราะห์ชี้ตลาดทุนยังไม่หายกังวลประเด็นเฟดจะปรับลดมาตรการ QE อย่างไร นางสาวธีรดา ชาญยิ่งยง นักวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ฟิลลิป(ประเทศไทย) กล่าวว่า สาเหตุที่ตลาดหุ้นไทยภาคบ่ายพลิกปรับตัวลดลงแรงน่าจะเป็นเพราะแรงขายทำกำไรหลังจากดัชนีปรับตัวขึ้นมามากแล้วจากระดับต่ำสุดที่ 1351 จุด ประกอบกับดัชนีปรับตัวเพิ่มขึ้นไปชนแนวต้าน 1500 จุด ทำให้มีแรงขายทำกำไรออกมา "นอกจากนี้จะสังเกตได้ว่ามูลค่าการซื้อขายในช่วง 2 วันนี้ค่อนข้างเบาบาง ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าการขึ้นของดัชนีในรอบที่ผ่านมายังมีความกังวลอยู่พอสมควร โดยเฉพาะในเรื่องการปรับลดมาตรการ QE ของธนาคารกลางสหรัฐ" นางสาวธีรดา กล่าววานนี้ ****ระแวงวันนี้โดนขายต่อไป นายชัยพร น้อมพิทักษ์เจริญ ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการ ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.บัวหลวง กล่าวว่าเปิดเผยว่า ไม่กี่วันที่ผ่านมาดัชนีมีการปรับตัวขึ้นมากว่า 120 จุด จึงมองว่าเป็นเรื่องปกติที่วันนี้นักลงทุนจะเทขายทำกำไรหุ้นออกมา ส่งผลให้ตลาดทั้งวันมีความผันผวนมาก ส่วนตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียเริ่มมีการฟื้นตัว โดยตลาดที่มีการฟื้นตัวอย่างชัดเจนคือ ฟิลิปปินส์, อินโดนีเซีย ขณะที่วันนี้ (19 มิถุนายน) น่าจะยังมีการเทขายทำกำไรออกมาต่อเนื่อง ให้แนวรับ 1,350 จุด แนวต้าน 1,474-1,480 จุด ****จมอยู่กับความอ่อนไหว นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.โกลเบล็ก เปิดเผยว่า เชื่อว่าการที่ดัชนีปรับตัวลดลงอย่างมากเป็นผลจากแรงขายทำกำไรจากที่ดัชนีได้ปรับตัวลดลงก่อนหน้า และมีนักลงทุนเข้าซื้อซึ่งเมื่อดัชนีปรับตัวเพิ่มขึ้นถึงจุดหนึ่ง พร้อมทั้งมีปัจจัยที่สะท้อนภาพการแพนิค ได้แก่ แนวโน้มผลการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯในคืนวันพุธนี้ รวมถึงกระแสข่าวที่ประธานาธิบดีบารัค โอบามา ส่งสัญญาณจะไม่ต่อวาระการดำรงตำแหน่งประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ให้ได้นายเบน เบอร์นันเก้ ที่จะหมดวาระลงในปีหน้าหลังจากที่ดำรงตำแหน่งมา 2 สมัย เป็นเวลารวม 4 ปี ซึ่งหากมีการปรับเปลี่ยนจริงจะทำให้เกิดการคาดการณ์ถึงการดำเนินมาตรการผ่อนคลายทางการเงินของสหรัฐฯ ว่าจะดำเนินการต่อจากนายเบอนันเก้หรือไม่ แม้ว่าผลกระทบดังกล่าวอาจจะอยู่ในระยะที่เฝ้าติดตาม แต่ตลาดการเงินในระยะนี้ค่อนข้างอ่อนไหวกับข่าวสารที่จะเกิดขึ้นอย่างง่ายดาย ****หากแม้มีข่าวบวก ระวังมีแรง Sell on Fact หลังวันที่ 19 นี้ บทวิเคราะห์ บล.ธนชาตระบุว่า SET และตลาดหุ้นทั่วโลกยังมีความเสี่ยงจาก 1) “Sell on Fact” หลังการประชุม FOMC วันที่ 19 มิ.ย.นี้ 2) เศรษฐกิจโลกฟื้นตัวช้ากว่าที่คาดการณ์ ล่าสุด World Bank ปรับลดคาดการณ์การเติบโตเศรษฐกิจโลก ลงสู่ 2.2% ในปีนี้ 3) สัญญาณชะลอตัวการบริโภคภายในประเทศ และ ธปท.มีแนวโน้มปรับลดคาดการณ์ GDP ลง ***จับตา ถ้าลดขนาด QE หุ้นถลำลงได้อีก นายสมชาย เอนกทวีผล ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟินันเซีย ไซรัส เปิดเผยว่า ภาพรวมของดัชนีตลาดหุ้นไทยในวานนี้ปรับตัวลดลงเพราะถูกเทขายทำกำไรหลังจากที่ดัชนีฯปรับตัวเพิ่มขึ้นมา 100 จุดตั้งแต่ปลายสัปดาห์ที่แล้ว โดยปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อการปรับตัวลดลงของดัชนีฯในช่วงบ่าย คือ ความกังวลว่าทางที่ประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ (FED) จะปรับลดโครงการซื้อคืนพันธบัตร (QE) ซึ่งทางฝ่ายวิเคราะห์มีความเห็นว่าที่ประชุม FED อาจยังไม่ปรับลดในการประชุมครั้งนี้แต่อาจยืดเวลาการลดมาตรการดังกล่าวไปจนถึงปลายปี แต่หากที่ประชุมมีมติจะลดขนาดของ QE อาจจะส่งผลกระทบต่อดัชนีฯให้มีการปรับตัวลงแรงมากกว่านี้ ****ระยะสั้นผันผวนน้อยลง กรอบดัชนีวันนี้ 1,422 จุด -1,470 จุด สำหรับแนวโน้มของดัชนีตลาดหุ้นไทยในวันพรุ่งนี้คาดว่าจะอยู่ในกรอบจำกัด หลังจากที่มีการปรับตัวลงแรงในวันนี้ ประกอบกับการรอผลการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯอีกด้วย ทั้งนี้ปัจจัยที่ต้องติดตามและส่งผลระยะยาวต่อภาพรวมของเศรษฐกิจไทย คือ การรอดูท่าทีของรัฐบาลหลังการรายงานการขาดทุนจำนำข้าว ซึ่งก่อนหน้านี้ทางมูดี้ส์ออกมาเปิดเผยว่าอาจจะปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือทางเศรษฐกิจของไทย แต่ในอนาคตปัจจัยดังกล่าวจะส่งผลต่อดัชนีฯ อย่างแน่นอน ด้านกลยุทธ์การลงทุนแนะนำให้ถือ แต่หากจะลงทุนก็ต้องระมัดระวังความผันผวนของตลาดฯ ทั้งนี้ประเมินแนวรับ 1,426-1,422 จุด และแนวต้านที่ 1,450-1,470 จุด
Posted on: Wed, 19 Jun 2013 02:28:47 +0000

Trending Topics



0px;"> A new state task force has started looking at Minnesotas child

Recently Viewed Topics




© 2015