เนื้อหามันน่าพิสูจน์ แผนยึดอำนาจกองทัพ? ปูทางรัฐบาลรัฐประหารตัวเอง? กรณีคลิปเสียงคล้ายพลเอกยุทธศักดิ์ ศศิประภา รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม พูดคุยกับคนเสียงคล้ายทักษิณ ชินวัตร ผู้ร้ายหลบหนีอาญาแผ่นดิน เป็นเรื่องร้ายแรงและเสื่อมเสียอย่างยิ่ง อย่าได้คิดว่าหากไม่ต่อความยาวสาวความยืด แสร้งเงียบๆ หุบปาก แล้วมันจะจบไปเอง เนื้อหาสาระที่ปรากฏในคลิปนั้น กระทบกระเทือนโดยตรงต่อบทบาทและการทำหน้าที่ของกองทัพและหน่วยงานความมั่นคงของประเทศหลังจากนี้ เพราะหากแสดงบทบาทสนับสนุนการล้างผิดให้กับทักษิณ เอนเอียงเข้าข้างระบอบทักษิณ เลียแข้งเลียขาทักษิณเพื่อหวังผลประโยชน์ การแต่งตั้งผู้นำเหล่าทัพ ฯลฯ ก็จะเป็นไปตามแผนร้ายที่ปรากฏอยู่ในคลิปเสียง ซึ่งจะไม่จบเท่านั้น เพราะยังวางแผนกดดันต่อรองเบื้องสูง อาศัยสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์เป็นเครื่องมือชุบตัว สร้างภาพ ต่อไปอีกด้วย 1) หลังจากปฏิเสธกับสื่อมวลชนไปเมื่อวันก่อน ท่าทีล่าสุดของพลเอกยุทธศักดิ์ ก็ยังไม่ยอมแถลงชี้แจงข้อเท็จจริงอย่างเป็นทางการ ทั้งๆ ที่ วันที่ 8 ก.ค. เดิมมีข่าวว่าเตรียมจะแถลงที่กระทรวงกลาโหม แต่กลับไม่แถลง โดยอ้างว่า “พูดไปแล้ว ไม่มีอะไรชี้แจงแล้ว” ขณะที่นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ยอมรับว่า พล.อ.ยุทธศักดิ์ได้โทรศัพท์มาคุยแล้ว แต่ก็ไม่ได้ให้ข้อมูลอะไรมาก ต้องรอให้มีความชัดเจนในรายละเอียดก่อน ส่วนบรรดาผู้นำเหล่าทัพ ก็ยังไม่ปรากฏท่าทีอย่างเป็นทางการว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไปกับกรณีดังกล่าว 2) คำแก้ตัวของบรรดาขี้ข้าทักษิณ ระดับไพร่ราบพลเลว ต่างพูดกันไป คนละทิศคนละทาง บางคน อ้างว่า คลิปเลียนแบบเสียง บางคน อ้างว่า คลิปตัดต่อ ทั้งสองกรณี แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง เพราะถ้าเป็นคลิปตัดต่อ ก็แสดงว่าเป็นเสียงจริงของพลเอกยุทธศักดิ์กับทักษิณ เพียงแต่ตัดต่อเอาบางส่วนบางตอนเท่านั้นเอง วิธีการพิสูจน์ความบริสุทธิ์ก็ง่ายนิดเดียว โดยไปเอาเสียงต้นฉบับมาเปิดเผยทั้งหมด หรืออย่างน้อยก็ควรทำเหมือนกรณีที่นายอภิสิทธิ์เคยถูกเล่นงานด้วยคลิปตัดต่อ เขาก็ไปเอาเสียงต้นฉบับหลายแหล่งที่พูดต่างกรรมต่างวาระ นำมาแฉให้เห็นเลยว่าเสียงแต่ละส่วนละตอนที่เอามาประกอบกันนั้น ไปหยิบฉวยมาจากที่ใดอย่างไร ส่วนที่อ้างว่าคลิปเลียนแบบเสียงนั้น ก็ยากที่จะเลียนโทนเสียง สำเนียงพูด ตลอดจนเนื้อหารายละเอียดของสถานการณ์และบุคคลได้ครบถ้วน คำแก้ตัวพรรค์อย่างนี้ จึงไม่มีน้ำหนักที่น่าเชื่อถือ 3) กรณีคลิปเสียง ทั้งนายกฯ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และผู้นำเหล่าทัพ จะปล่อยผ่านไปเฉยๆ ไม่ได้ เพราะเสื่อมเสียอย่างยิ่งต่องานราชการแผ่นดิน อย่างน้อยจะต้องสอบสวนหรือลงโทษผู้เกี่ยวข้อง บางตอนของเสียงสนทนา กล่าวถึงแผนการจะใช้สภาความมั่นคงแห่งชาติสภากลาโหม และตำแหน่งผู้นำเหล่าทัพต่างๆ เพื่อผลประโยชน์ทางการเมือง โดยเฉพาะการจะรวบรัดออกกฎหมายล้างผิดให้ทักษิณ เช่น “เสียงคล้ายทักษิณ : ...ปรึกษานายกฯ กับ ผบ.เหล่าทัพได้ คนภายนอกไม่ต้องเกี่ยว แล้วก็ เห็นพี่เห็นบอกจะเอา ถ้ากฎหมายโอเคแล้ว พี่จะเอาเข้าผ่านสภากลาโหมด้วยหรือ เสียงคล้ายยุทธศักดิ์ : ผมจะเอาเข้าสภากลาโหมเพื่อหารือให้ ผบ.เหล่าทัพทุกเหล่าทัพมีความคิดอันเดียวกันเลย ถ้าไม่งั้น ถ้าไม่เข้า เดี๋ยวคนนั้นพูดทีคนนี้พูดที วิธีเดียวก็คือขออนุญาตเอาเรื่องนี้เข้าสภากลาโหมเพื่อหารือให้เกิดเป็นความคิดอันเดียวกัน เสียงคล้ายทักษิณ : เอาเข้าสิ เอาเข้าสภาความมั่นคงฯ ส่งให้รัฐบาล จบ ลัดขั้นตอนเลย เสียงคล้ายยุทธศักดิ์ : จบเลย ครับ เอาเข้าได้ ก่อนที่จะเข้าก็ต้องหารือกับเหล่าทัพแต่ละคนก่อน เฮ้ย! ลื้ออ่านนะ มีอะไรที่จะแก้ไข มีอะไรที่จะพูด พูดกันนอกการประชุมเสียก่อน เสียงคล้ายทักษิณ : เราเสนอเป็น พ.ร.บ. ไม่มีใครรู้ แต่พอถึงสภาความมั่นคงฯ ปุ๊บเนี่ย เราก็ เพื่อความไม่วุ่นวายเสนอเป็น พ.ร.ก. เสียงคล้ายยุทธศักดิ์ : เพราะว่า ไอ้วาระนี้ ถ้าผมได้อยู่นะครับ ได้ทำ ผมจะไม่เอาเข้าวาระ แต่เป็นวาระที่ จรเข้าไปเลย บอกว่า ขอเสนอวาระสำคัญ เสียงคล้ายทักษิณ : ในสภากลาโหมนี่ ก็ใช้วิธีว่า เอ้ย! สภาความมั่นคง ก็ใช้วิธีเข้าไปเสร็จปุ๊บ เนี่ย หน้าตาเป็น พ.ร.บ. และก็ในสภากลาโหมก็ไม่ต้องออกข่าว แต่บอกให้รู้ว่า ถ้าเพื่อความรวดเร็ว และไม่วุ่นวาย น่าจะเป็น พ.ร.ก. อะไรอย่างนี้ พูดไว้ บันทึกไว้ พอไปถึงสภาความมั่นคงปั๊บ พอเข้าไป บอกว่าเสนอเป็น พ.ร.บ. หน้าตาเป็น พ.ร.บ. นะ แล้วสภาความมั่นคงก็บอกว่า ขอให้รัฐบาลเสนอออกเป็น พ.ร.ก. มันจะได้มีอะไรรองรับ...” เนื้อความข้างต้น บ่งชี้ถึงแผนการที่จะใช้สภากลาโหม สภาความมั่นคงแห่งชาติ เป็นเครื่องมือในการเสนอแนะหรือช่วยผลักดันกฎหมายล้างผิดให้ทักษิณ โดยจะแสร้งว่าเสนอเป็น พ.ร.บ. ก่อน แล้วก็จะให้สภาความมั่นคงหรือสภากลาโหมแนะนำให้ออกเป็น พ.ร.ก. ซึ่งจะตัดตอนการตรวจสอบของรัฐสภาแทน เฉพาะประเด็นนี้ สภากลาโหม และสภาความมั่นคงแห่งชาติ จะต้องออกมาแสดงความชัดเจน โดยยืนยันว่าจะไม่มีการดำเนินการในลักษณะที่คนชั่วสมคบกันวางแผนไว้อย่างนั้นเด็ดขาด 4) สภาความมั่นคงแห่งชาติ ประกอบด้วย นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน, รองนายกรัฐมนตรี, รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม, รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง,รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ, รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม, รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย, ผู้บัญชาการทหารสูงสุด, เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ เป็นสมาชิกและเลขานุการ คนเหล่านี้ จะต้องออกมาแสดงความชัดเจน ยืนยันว่า จะไม่มีการดำเนินการตามแผนร้ายข้างต้นเด็ดขาด เพราะเรื่องการล้างผิดให้ทักษิณและพวกนั้น เป็นผลประโยชน์เฉพาะตัว มิใช่ไปเอาหน่วยงานความมั่นคงของประเทศมาทำหน้าที่เป็นบันไดรองตีนให้โจร หรือทำหน้าที่ประหนึ่งหมอนวดอาบน้ำล้างผิดให้ทักษิณ เช่นเดียวกับสภากลาโหม ประกอบด้วย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม, รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม, ปลัดกระทรวงกลาโหม ตลอดจนบรรดาผู้บัญชาการเหล่าทัพต่างๆ เป็นต้น จะยอมตัวเป็นขี้ข้า รองมือรองตีนตามแผนร้ายที่ปรากฏในคลิปเสียงหรือไม่? จะกลืนน้ำลายคำปฏิญาณตนหน้าธงชัยเฉลิมพล รวมถึงคำสัตย์ปฏิญาณของชายชาติทหาร หรือไม่? 5) เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ถือเป็นเรื่องร้ายแรงอย่างยิ่ง เป็นภัยต่อระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขอย่างแท้จริง เพราะถ้าแผนการในคลิปเกิดขึ้นจริง ก็จะไม่ต่างกับการยึดอำนาจกองทัพและฝ่ายความมั่นคงของประเทศอย่างเบ็ดเสร็จเด็ดขาด โดยตกอยู่ใต้อาณัติ สั่งการ บงการ หรือกระทำการเพื่อผลประโยชน์ทางการเมืองของผู้ร้ายหลบหนีอาญาแผ่นดิน หนีโทษจำคุกตามคำพิพากษาของศาลฎีกาฯ หนีคดีโกงชาติโกงแผ่นดินอีกมากมายหลายคดี เสมือนหนึ่งบุคคลในคลิปและพวกได้อาศัยกองทัพและฝ่ายความมั่นคง ทำรัฐประหารตัวเอง! ทำลายระบบนิติรัฐ นิติธรรม ตัดตอนกลไกตรวจสอบตามระบบรัฐสภา บิดเบือนการใช้อำนาจรัฐ กระทำการเพื่อผลประโยชน์ส่วนตัวของคนโกงชาติโกงแผ่นดิน! นายสุเทพ เทือกสุบรรณ แกนนำพรรคประชาธิปัตย์ อดีตรองนายกฯ ฝ่ายความมั่นคง ให้ความเห็นเกี่ยวกับกรณีคลิปเสียงไว้อย่างน่าพิจารณาไตร่ตรองไปยังสถานการณ์ในอนาคตอันใกล้ว่า “...สิ่งที่ออกมาฟังดูน่าเกลียดมาก เช่น ว่าจะเสนอกฎหมายเป็น พ.ร.ก.นิรโทษกรรมแทน พ.ร.บ. ยังไม่ต้องพูดถึงว่าเนื้อหาเป็นอย่างไร แต่ทำอย่างนี้เลวร้ายมาก เป็นการดูถูกดูหมิ่นประชาชนและตัวแทนของประชาชน และไม่เห็นกลไกกติกาของบ้านเมืองอยู่ในสายตา เอาแต่ได้ เอาแต่ประโยชน์ส่วนตัว เราจึงรับไม่ได้ ถ้าเกิดมีใครหรือรัฐบาลนี้บังอาจออก พ.ร.ก.นิรโทษกรรม เพื่อประโยชน์ของใครคนใดคนหนึ่ง เชื่อว่าประชาชนทั้งประเทศจะลุกฮือขึ้น ในฐานะตัวแทนประชาชนได้ประกาศศึกมาตั้งนานแล้วว่า เราจะทำทุกอย่างเพื่อรักษาบ้านรักษาเมืองของเรา... วันนี้ผู้มีอำนาจทั่วโลกก็ล้วนถูกโค่นลงมา คนที่กำลังยโสอวดดี คิดว่ามีอิทธิพลเหนือชีวิตคนไทยทั้งหมดก็อาจจะได้บทเรียนที่สำคัญด้วย มีเหตุการณ์ที่เป็นบทเรียนทั่วโลก แต่คนบางคนคงยากที่จะเรียนรู้อะไร เพราะว่าเหลิงอำนาจ ลำพองในอำนาจอิทธิพลของตัวเองไปมากแล้ว ถ้ามีสติได้ก็จะรู้ว่านอกจากตัวเองจะไม่มีแผ่นดินอยู่แล้ว ลูกหลานครอบครัวก็จะลำบาก...” สารส้ม naewna/politic/columnist/7547
Posted on: Tue, 09 Jul 2013 02:52:03 +0000
Trending Topics
Recently Viewed Topics
© 2015