IQ> (เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้าขึ้นยากหลังการเมืองยังตึงเครียด-จับตาเหตุการณ์บุก บชน. สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (03 ธ.ค. 56)--นักวิเคราะห์ฯคาดตลาดหุ้นไทยเช้านี้ปรับตัวขึ้นยาก เหตุการเมืองยังไม่คลี่คลาย และเช้านี้สุเทพ เทือกสุบรรณจะบุกยึดกองบัญชาการตำรวจนครบาล(บชน.)ดังนั้น ตลาดฯวันนี้คงจะผันผวนตามเหตุการณ์ที่เข้ามา ประกอบกับ ตลาดภูมิภาคเช้านี้ส่วนใหญ่อยู่ในแดนลบกันทั่วหน้า ตามดาวโจนส์ปรับตัวลงจากแรงขายทำกำไร อันเนื่องมาจากตัวเลขการจับจ่ายใช้สอยของสหรัฐฯต่ำกว่าปีที่แล้ว หวั่นเศรษฐกิจสหรัฐฯจะไม่ดี พร้อมให้กรอบการแกว่งไว้ที่ 1,355-1,380 จุด นายศราวุธ เตโชชวลิต ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิจัย บล.อาร์เอชบี โอเอสเค(ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คงจะปรับตัวขึ้นได้ยาก เนื่องจากสถานการณ์การเมืองยังไม่คลี่คลาย หลังการแถลงของสุเทพ เทือกสุบรรณผิดจากความคาดหวังว่าจะมีข่าวดี โดยวันนี้ต้องรอดูเหตุการณ์การบุกยึดกองบัญชาการตำรวจนครบาล(บชน.)ซึ่งอาจจะมีการกระทบกระทั่งกันเกิดขึ้นได้ ดังนั้น ตลาดฯวันนี้คงจะผันผวนตามเหตุการณ์ทางการเมืองที่เข้ามา ประกอบกับ ตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้ส่วนใหญ่จะอยู่ในแดนลบกันถ้วนหน้า ภายหลังจากเมื่อคืนที่ผ่านมาดาวโจนส์ปรับตัวลงจากแรงขายทำกำไร อันเนื่องมาจากปีนี้การจับจ่ายใช้สอยของสหรัฐฯต่ำกว่าปีที่แล้ว ทำให้เกรงว่าตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐฯจะยังไม่ค่อยดี พร้อมให้กรอบการแกว่งไว้ที่ 1,355-1,380 จุด ประเด็นของการพิจารณาการลงทุน : - ตลาดหุ้นนิวยอร์ควานนี้(2 ธ.ค.)ดัชนีดาวโจนส์ปิดที่ 16,008.77 จุด ลดลง 77.64 จุด(-0.48%) ดัชนี S&P 500 ปิดที่ 1,800.90 จุด ลดลง 4.91 จุด (-0.27%) ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 4,045.26 จุด ลดลง 14.63 จุด(-0.36%) - ตลาดหุ้นเอเชียเปิดเช้านี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น เพิ่มขึ้น 92.47 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง ลดลง 150.78 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน ลดลง 6.87 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ ลดลง 7.16 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ ลดลง 6.86 จุด และดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย เพิ่มขึ้น 7.11 จุด - ตลาดหุ้นไทยปิดวานนี้(2 ธ.ค.)ที่ 1,374.26 จุด เพิ่มขึ้น 3.13 จุด(+0.23%) - นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 6,403.72 ล้านบาท เมื่อ 2 ธ.ค.56 - ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ม.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการวานนี้(2 ธ.ค.)ที่ 93.82 ดอลลาร์/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 1.10 ดอลลาร์ฯ - ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดวานนี้(2 ธ.ค.)ที่ 6.49 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล - เงินบาทเปิด 32.18/19 การเมืองกดดันบาทอ่อนค่าต่อ - 7 สถาบันธุรกิจออกแถลงการณ์ขอทุกฝ่ายยุติความรุนแรง แก้ปัญหาตามหลักกฏหมายยื่น 4 ข้อ พร้อมเสนอให้มีการเจรจาระหว่างผู้ที่เกี่ยวข้องทุกฝ่าย เพื่อให้ได้ข้อยุติก่อนมีการเลือกตั้งแนะดึงผู้แทนองค์กรเป็นที่ยอมรับเข้าร่วมเจรจา กกร.เสนอเป็นตัวกลางเจรจาหวั่นลุกลามจนเป็น รัฐอนาธิปไตย ขณะที่ตลาดทุนห่วงการเมืองร้อนต่างชาติเทขายหนักถึง 2 แสนล้าน - นายกฯ ปรากฎตัวแล้ว ยอมรับคุยกับ สุเทพ ผ่านการประสานของผู้บัญชาการเหล่าทัพจริง ปฏิเสธเงื่อนไขคืนอำนาจให้ประชาชน อ้างไม่มีกฏหมายรองรับ วอนทุกฝ่ายช่วยหาทางให้ด้วย พร้อมเจรจาทุกออปชั่นมั่นใจกองทัพวางตัวเป็นกลาง ขณะที่รัฐบาลปรับเล็ก ตั้ง สุรพงษ์ คุม ศอ.รส.แทน ประชา ส่วนตำรวจโยก คำรณวิทย์ พ้นหน้าที่คุมม็อบ ด้าน ผบ.เหล่าทัพ เร่งประสานทุกฝ่ายแก้ปัญหาด้วยสันติวิธี ขณะที่ศาลอนุมัติหมายจับ สุเทพ ข้อหากบฏ เจ้าตัวสั่งมวลชนบุกยึด บช.น.วันนี้ - ททท.ระบุผลกระทบเหตุการณ์ชุมนุมต่างชาติแจ้งเตือนนักท่องเที่ยวมาไทยเพิ่มรวม 34 ประเทศ ล่าสุด โรมาเนีย-นิวซีแลนด์ เตือนระดับ 2 ระมัดระวังเป็นพิเศษ อิสราเอล-สโลวัก-รัสเซีย ประกาศให้ระมัดระวังอันดับสูง เผยยอดจองล่วงหน้า ธ.ค.56-ม.ค.57 ชะลอ ผู้ประกอบการอสังหาฯชี้ชุมนุม กระทบยอดซื้อ-โอนกรรมสิทธิ์แล้ว - ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.)เผยแม้สถานการณ์การชุมนุมจะมีอยู่ต่อเนื่องแต่การเคลื่อนไหวของค่าเงินบาทยังไม่ได้ผันผวนอ่อนค่าจนน่ากังวล และภาวะการไหลออกของเงินก็ยังไม่ถือว่าผิดปกติแต่อย่างใด โดยตั้งแต่ช่วงเดือน ต.ค.-พ.ย. มีเงินทุนเคลื่อนย้ายรวม 3,300 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 1.06 แสนล้านบาท ถ้าพิจารณาจากค่าเงินที่ 32.28 บาทต่อเหรียญสหรัฐ - ธปท.เตรียมใช้ระบบวิดิโอคอนเฟอเรนซ์ ประชุมหารือกับผู้บริหารระดับสูงของธนาคารพาณิชย์เกี่ยวกับสถานการณ์การชุมนุมที่เกิดขึ้น เผยผู้บริหารธนาคารพาณิชย์สามารถสั่งเปิดปิดสาขาที่ได้รับผลกระทบได้ตามความเหมาะสม มองตลาดเงินปีหน้าผันผวน เผยเดือน พ.ย.ต่างชาติขนเงินออก 3.3 พันล้านเหรียญ เงินบาทอ่อนค่าต่อเนื่อง - ผู้ว่าการแบงก์ชาติห่วงสถานการณ์ทางการเมืองกระทบเศรษฐกิจไทย คาดปีนี้จีดีพีอาจโตต่ำกว่า 3% แนะทางออกทางการเมืองคู่ขัดแย้งต้องหารือร่วมกันในรูปแบบใดรูปแบบหนึ่งและหลีกเลี่ยงการใช้ความรุนแรง - ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจธนาคารไทยพาณิชย์ ประเมินว่า ในปีนี้แรงกดดันด้านเงินเฟ้อยังคงมีไม่มากนักและคงคาดการณ์เงินเฟ้อทั่วไปและเงินเฟ้อพื้นฐานเฉลี่ยปีนี้ อยู่ที่ 2.2% และ 1% ตามลำดับ โดยอัตราเงินเฟ้อทั่วไปและอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานเฉลี่ย 11 เดือนแรกของปีนี้ อยู่ที่ 2.24% และ 1.02% ตามลำดับ ต่ำกว่าอัตราเงินเฟ้อของปีที่แล้วที่อยู่ในระดับ 3.02% และ 2.10% ตามลำดับ *หุ้นเด่นวันนี้ - BTS(ฟินันเซีย ไซรัส)ซื้อเป้าปีหน้า 10.50 บาท ตั้งแต่วันที่ 5 ธ.ค.จะเปิดส่วนต่อขยายสายสีลมเต็มรูปแบบเพิ่มอีก 2 สถานีใหม่คือวุฒากาศและบางหว้า จะให้บริการฟรีจนถึง 5 ม.ค.57 คาดส่งผลบวกต่อรายได้ค่าบริหารรถไฟฟ้าส่วนต่อขยาย และช่วยเพิ่มจำนวนผู้โดยสารเข้าสู่สายหลัก นอกจากนี้ ยังเป็นหุ้นปันผลสูง ให้ผลตอบแทน 6-7% ในช่วง 3 ปีนี้ และยังมีโอกาสชนะประมูลโครงการรถไฟฟ้าในอนาคต - WHA(เคจีไอ)ซื้อเป้าปี 57 อยู่ที่ 46 บาท คาดว่าพื้นที่พร้อมเช่าและพื้นที่เตรียมปล่อยเช่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 1 ล้านตารางเมตรภายในสิ้นปี 2556, ที่ดินที่ซื้อเพิ่มอยู่ในทำเลที่เป็นศูนย์กลางการขนส่ง ซึ่งมีอุปสงค์ของโกดังสินค้าสูง และมีแผนขายสินทรัพย์มูลค่า 4.5 พันล้านบาทเข้ากองทุนในไตรมาสที่ 4/56 - INTUCH (ดีบีเอส วิคเคอร์ส)ซื้อเป้า 119 บาท แม้กำไรสุทธิ 3Q56 อาจไม่โดดเด่นมากนัก แต่เชื่อว่าจะเติบโตสูงขึ้นในปี 57 หลังจากที่ ADVANC เข้าสู่ระบบ 3G ใหม่และได้รับประโยชน์เต็มที่ คาดโอนย้ายลูกค้าจาก 2G ได้ตามเป้า 12 ล้านรายภายในสิ้นปี 56 และคาด THCOM จะเติบโตแกร่งราว 40% ในปี 57 หลังจาก Turnaround ในปีนี้ คาด Dividend ปี 56-57 ที่ 4.25 บาท และ 5.50 บาท คิดเป็น Yield ที่ 5.4% และ 7.0% นับว่าสูงมากในกลุ่มหุ้น Market Cap ใหญ่ --อินโฟเควสท์ โดย พรเพ็ญ ดวงเฉลิมวงศ์/ศศิธร โทร.02-2535000 ต่อ 345 อีเมล์: [email protected]
Posted on: Tue, 03 Dec 2013 02:57:15 +0000
Trending Topics
Recently Viewed Topics
© 2015